เดอเบล ประกาศแผนธุรกิจ 3 ปี

เดอเบล ประกาศแผนธุรกิจ 3 ปี

เสริมแกร่งระบบเทคโนโลยี ขยายสาขาและทีมขาย พร้อมเตรียมเปิดช่องทางขายและธุรกิจใหม่ๆ ทั้งออนไลน์ ตู้เวนดิ้ง และสินค้าจากคู่ค้าต่างประเทศ

วันนี้เดอเบล บริษัทในกลุ่มธุรกิจ TCP หนึ่งในผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 17 ปี ได้ประกาศแผนธุรกิจ 3 ปี ด้วยการลงทุนเพิ่ม 2,000 ล้านบาท ใน 3 ส่วนคือ 1. การลงทุนด้านเทคโนโลยีทั้งในด้านการขาย ด้านข้อมูลการตลาด ด้านโลจิสติคส์ และคลังสินค้า เพื่อให้การบริการกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร 2. การขยายสาขา เพิ่มศูนย์กระจายสินค้าและทีมขายเพื่อรองรับจำนวนคู่ค้าและประเภทสินค้าที่จะหลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมบริหาร และพัฒนาศักยภาพการขายให้กับทีมงาน 3. เปิดช่องทางการขายใหม่ทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ ตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ หรือ Vending Machine เพื่อให้คลอบคลุมร้านค้า และเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง รวมถึงโอกาสทางธุรกิจจากคู่ค้าต่างประเทศผ่านเครือข่ายของกลุ่ม พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดด้วยยอดขาย 30,000 ล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนสินค้าของคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP เป็น 60%

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า “แผนธุรกิจ 3 ปีของเดอเบลที่ประกาศในวันนี้ จะเป็นการสนับสนุนวิสัยทัศน์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจที่ได้รับการชื่นชมที่สุดของไทย และผลักดันยอดขายให้โตขึ้น 3เท่าเป็น 100,000ล้านบาทในปี 2565อีกทั้งมุ่งยกระดับให้เดอเบลก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกระจายสินค้า ที่สามารถให้คำปรึกษากับคู่ค้าอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมบริการที่ครบวงจรในทุกช่องทางการตลาด ตั้งแต่การจัดจำหน่าย การขาย และกลยุทธ์ทางการตลาด จากทีมงานขายที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและร่วมงานกับเรามาอย่างยาวนาน เพื่อรองรับกับคู่ค้าในปัจจุบันและรายใหม่ที่จะเพิ่มมากขึ้น”

นายสุรชัย จงเลิศวราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอเบล จำกัด กล่าวว่า “เดอเบล เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน และมีโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจในการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่แข็งแกร่ง โดยสิ้นปี 2561 บริษัทมีรายได้มากกว่า 17,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เป็นราวมากกว่า 30,000 ล้านบาทใน 3 ปี ก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างแท้จริง”

  • 140,000 ร้านค้า – คือจำนวนลูกค้าของเดอเบลซึ่งครอบคลุมร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ และโมเดิร์นเทรด ทั่วประเทศ

  • 24 สาขาและศูนย์กระจายสินค้าย่อย – ที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด ทำให้สามารถใช้เวลาเพียง 2 วันในการนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้า ซึ่งถือว่าใช้เวลาสั้นที่สุด

  • รถขนส่งสินค้ากว่า 300 คัน และทีมรถขาย 600 ทีม พร้อมพนักงานขายและทีมงานสนับสนุนอีก 2,200 คน – ที่มีจุดเด่นเรื่องวินัยในขั้นตอนการทำงานขายที่รัดกุม รวมถึงประสบการณ์ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ทำให้บริการของเดอเบลเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งร้านค้า และเจ้าของสินค้า

  • สินค้าจากคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง – เดอเบลไม่เพียงจะจัดจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มธุรกิจ TCP เท่านั้น แต่ยังให้บริการกับคู่ค้ารายอื่นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก หรือองค์กรขนาดใหญ่ อาทิ โอวัลติน แบรนด์ เจเล่ เมจิกฟาร์ม เบนโตะ กาแฟเพรียว โกปิโก้ ขนมเบง เบง เครื่องดื่มบริ๊งค์ และวิตอะเดย์ ฯลฯ เป็นต้น โดยปัจจุบันคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจTCP มีสัดส่วนเกือบ 40%

  • การใช้เทคโนโลยีเต็มรูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิผลให้กับคู่ค้า

เดอเบลมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่นับวันจะถูก disrupt มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การทำงานแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง บริษัทจึงได้เตรียมความพร้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโครงสร้างองค์กรและบุคลากร ด้านโลจิสติคส์ ด้านเทคโนโลยี เพื่อให้สามารถนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และบริการให้ดียิ่งขึ้นกับคู่ค้าและลูกค้าของบริษัท

ตามแผนธุรกิจ 3 ปี เพื่อรองรับจำนวนสินค้าจากคู่ค้านอกกลุ่มธุรกิจ TCP ที่จะเพิ่มขึ้น เดอเบลจึงได้ลงทุนพัฒนาระบบการทำงานต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่ ระบบจัดการขายและกระจายสินค้า (Distribution Management System) ระบบการคลังสินค้า (Warehouse Management System) ระบบจัดการข้อมูลธุรกิจต่างๆ (Business Intelligent) และระบบจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management)

“เราคาดว่าเมื่อการพัฒนาระบบเสร็จสิ้นสมบูรณ์ จะช่วยทำให้เราบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น ลดการสูญเสียและการเสียโอกาสการขายของสินค้า เพิ่มความเร็วในการนำสินค้าเข้าสู่ร้านค้าให้กับคู่ค้า รวมถึงการนำข้อมูลจากร้านค้าและตลาดมาช่วยให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด รวมถึงสามารถใช้ข้อมูลโปรไฟล์ลูกค้าและร้านค้าในการบริหารจัดการแคมเปญและความสัมพันธ์ในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้คู่ค้าของเรากำหนดเป้าหมายได้ชัดเจน และวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ดียิ่งขึ้น” นายสุรชัย กล่าว

ขยายสาขาและศูนย์กระจายสินค้า พร้อมเพิ่มทีมขาย ขยายศักยภาพ รองรับคู่ค้ารายใหม่

“เรายังวางแผนว่าภายใน 3 ปี เดอเบลจะเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าหลัก 1 แห่ง และ สาขาใหม่อีก 5 แห่ง ในจังหวัดที่มีศักยภาพ เพิ่มทีมรถขายอีกกว่า 200 คัน เพิ่มทีมงานขายมืออาชีพอีกอย่างน้อย 400 คน และเมื่อรวมจำนวนสาขาปัจจุบัน และสาขาใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้เดอเบลมีสำนักงานขายที่มีศูนย์กระจายสินค้าย่อยในตัว รวมทั้งสิ้น 30 แห่ง เป็นผู้ประกอบการเพียงไม่กี่รายที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด

ด้านกลยุทธ์ต่างๆ จะเกิดจากการทำงานเป็นทีมเวิร์คของทีมบริหารมืออาชีพทั้งในส่วนกลางและในระดับสาขา ที่มากด้วยประสบการณ์ และอยู่กับเดอเบลมาอย่างยาวนาน รวมกันกว่า 40 คน พร้อมกันนี้ยังได้ มีการเสริมทีมบริหารที่เป็นคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาขีดความสามารถของทีมงานขายทุกระดับให้ก้าวทันโลกและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เพื่อปรับตัวให้พร้อมรับกับการแข่งขัน และ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและรูปแบบการทำธุรกิจในอนาคต ซึ่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับเดอเบล 

พิ่มช่องทางขายทั้งออนไลน์ ตู้จำหน่ายสินค้า และตลาดต่างประเทศ

ตามแผนธุรกิจที่กำหนดไว้ เดอเบลจะพัฒนาช่องทางการขายใหม่คือ ช่องทางตู้จำหน่ายสินค้าหยอดเหรียญ และ ช่องทาง online รวมถึงการกระจายสินค้าจากต่างประเทศในประเทศไทย และอาจนำสินค้าของคู่ค้าที่มีศักยภาพไปจัดจำหน่ายในตลาดต่างประเทศผ่านเครือข่ายของกลุ่มธุรกิจ TCP

“เทรนด์การตลาดของธุรกิจค้าปลีกแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่านออนไลน์ หรือการขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้า (Vending Machine) กำลังเป็นอาวุธใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง อีกทั้งร้านค้าและลูกค้าของเดอเบลก็เริ่มมีความคุ้นเคยกับช่องทางออนไลน์ เดอเบลจึงมีแผนจัดตั้งทีมที่ดูแลช่องทาง On-line เพื่อเป็นช่องทางการตลาดที่ครบวงจร ขณะเดียวกันเรามองว่าทุกวันนี้มีคนที่สนใจจะทำธุรกิจค้าปลีกกันมาก แต่มักจะติดข้อจำกัดสำคัญด้านเงินลงทุน ราคาที่ดินที่สูง และการขาดแคลนแรงงานที่จะขายของและเฝ้าร้าน ดังนั้น ตู้จำหน่ายสินค้าจะเข้ามาตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการจะค้าขายดังกล่าว” นายสุรชัย กล่าว

นอกจากนั้นเดอเบลยังได้อาศัยความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจ TCP ในต่างประเทศ ในการเป็นอีกช่องทางการขายหนึ่งให้กับคู่ค้าของเรา ที่ต้องการจะนำสินค้าออกไปขายในต่างประเทศ หรือคู่ค้าในต่างประเทศที่ต้องการจะนำสินค้าเข้ามาขายในประเทศไทย

ตามแผนธุรกิจนี้ จะทำให้เดอเบลก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจนี้ โดยยกระดับการให้บริการของเดอเบลสูงขึ้น ซึ่งจะไม่ใช่เป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่เดอเบลจะเป็นพันธมิตรที่ให้คำปรึกษาและช่วยตอบโจทย์ทางธุรกิจให้กับคู่ค้าได้อย่างครบวงจร ด้วยการใช้จุดแข็งด้านโลจิสติกส์ที่ทันสมัย กับเครือข่ายสาขาที่มากกว่า ผสานเข้ากับการขยายช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ ใหม่ๆ เสริมด้วยการนำบิ๊กดาต้า (big data) เข้ามาช่วยศึกษาข้อมูลเพื่อตอบสนองความต้องการของคู่ค้าและลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และ มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

“เดอเบลมีจุดแข็งที่สามารถจะสร้างความสำเร็จ แบบที่หลายบริษัทฯ ไม่มี คือ เรามีความพร้อมทุกด้าน ทั้งบุคลากร เงินทุน ระบบ โครงสร้างเครือข่ายในการกระจายสินค้า รวมถึง synergy power ที่ได้จากเครือข่ายธุรกิจทั้งในและนอกประเทศของกลุ่มธุรกิจ TCP และที่สำคัญคือฐานลูกค้าเดอเบลจำนวนมากทั่วประเทศ” นายสุรชัยกล่าว

ท่านสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมของกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ที่ www.tcp.com หรือ www.durbell.com

ข้อมูลกลุ่มธุรกิจ TCP

กลุ่มธุรกิจ TCP ประกอบด้วยบริษัท ที.ซี. ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าของกลุ่ม บริษัท เครื่องดื่มกระทิงแดง จำกัด รับผิดชอบในการทำตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม บริษัท ที.จี. เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด เป็นเจ้าของและบริหารจัดการตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติสำหรับผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ และ บริษัท เดอเบล จำกัด ดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและแบรนด์อื่นๆ ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจ TCP มีพนักงานกว่า 5,000 คนในประเทศไทยและทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ รวม 8 แบรนด์ คือ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังคือ กระทิงแดง เรดดี้ โสมพลัส และวอริเออร์ กลุ่มเครื่องดื่มเกลือแร่ คือ สปอนเซอร์ กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริ้งก์ คือ แมนซั่ม กลุ่มเครื่องดื่มชาพร้อมดื่ม คือ เพียวริคุ ผลิตภัณฑ์เมล็ดทานตะวัน คือ ซันสแนค และกลุ่มหัวเชื้อเครื่องดื่ม คือ เรดบูลรสดั้งเดิม

กลุ่มธุรกิจ TCP ผนึกความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 3 มิติคือ Integrity (พันธมิตรธุรกิจยั่งยืนและองค์กรธรรมาภิบาล) Quality (คุณภาพสินค้าและบริการ และคุณภาพชีวิตบุคคลากร) และ Harmony (รักษ์สิ่งแวดล้อม และชุมชนยั่งยืน) เป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนนี้ เพื่อมุ่งยกระดับกลุ่มธุรกิจ TCP เป็นหนึ่งใน “บริษัทคนไทยที่ได้รับการชื่นชมที่สุด”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

กลุ่มธุรกิจ TCP

โทรศัพท์ 02-415 0100-3

คุณปภาดา ต่อ 1274 และคุณภัทร์ชญาณิศ ต่อ1283

บริษัท บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์ จำกัด

โทรศัพท์ 02-664 9500

คุณกัณฑิชา ต่อ 112 และคุณภัตติมา ต่อ 113