อำพลฟูดส์รุกทำตลาดรอยไทยทั้งในและต่างประเทศ

อำพลฟูดส์รุกทำตลาดรอยไทยทั้งในและต่างประเทศ ชูเป็นสินค้าธงในปีนี้ เผยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจน้อย ยอมรับพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน ยอดโรงแรม-ร้านอาหารตก คนหันทำกินเองมากขึ้นช่วยชดเชย นายเกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ จำกัด เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจจะยังอยู่ในภาวะซบเซา แต่ธุรกิจในกลุ่มอาหารได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย เพราะไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย แต่ยอมรับว่าผู้บริโภคบางกลุ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ที่เคยซื้อสินค้าไซส์ขนาดใหญ่ หรือ 1 ลิตร ยอดขายจะลดลงไปประมาณ 10%

แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการชดเชยจากการที่ผู้บริโภคลดการกินอาหารนอกบ้าน หันไปทำอาหารรับประทานเอง เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายจึงทำให้ยอดขายสินค้าขนาดเล็กเพิ่มขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้บริษัทต้องปรับแผนโฆษณาตามไปด้วย โดยจะมุ่งเน้นไปสู่ระบบครอบครัวมากขึ้น นายเกรียงศักดิ์กล่าวและว่า ในปีนี้ยอดขายรวมของบริษัทคงอยู่ในราว 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขาย 1,400 ล้านบาท เนื่องจากมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น

ได้แก่ น้ำนมข้าวกล้องงอก ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดี และยังมีผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงภายใต้ยี่ห้อ รอยไทย ที่ถือเป็นอนาคตในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มยอดรอยไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้อยู่ 50% เท่ากับการขายในประเทศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เริ่มส่งออกรอยไทยไปในหลายประเทศแล้ว เช่น ญี่ปุ่น ยุโรป เยอรมนี อิสราเอล ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยจะวางขายในร้านค้าปลีก ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะช่วยให้การทำอาหารในต่างประเทศง่ายขึ้น

แม้แต่ชาวต่างชาติเองก็สามารถทำได้และเป็นรสชาติเดียวกัน ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าบุกตลาดญี่ปุ่นอย่างจริงจัง จะมีการไปโรดโชว์ในงานแสดงสินค้าอาหารด้วย ทั้งนี้ บริษัท อำพลฟูดส์ มีผลิตภัณฑ์ด้วยกัน 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ 1.กะทิชาวเกาะบรรจุกล่อง 2.เครื่องดื่มจากธัญพืช โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดคือ น้ำนมข้าวกล้องงอก 3.ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงเฉพาะกลุ่ม เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มาจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้ชื่อ กู๊ดไลฟ์ และ 4.ผลิตภัณฑ์พร้อมปรุง ภายใต้ชื่อรอยไทย