ทำความรู้จักนักธุรกิจสาวไฟแรง โปรไฟล์ดี ‘หรรษา ไกรโกศล’

ทำความรู้จักนักธุรกิจสาวไฟแรง โปรไฟล์ดี ‘หรรษา ไกรโกศล’

เปิดแนวคิดการทำงานอย่างคนรุ่นใหม่ของนักธุรกิจสาวไฟแรง โปรไฟล์ดี ‘หรรษา ไกรโกศล’ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรสวนสนุกเด็กระดับเวิลด์คลาส ‘เพลย์มอนโด’ (Playmondo)

หากพูดถึงความสำเร็จของแต่ละคนนั้น แน่นอนว่าจะต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับนักธุรกิจสาวหน้าใหม่วัย 28 คนนี้ เธอสามารถสร้างอาณาจักรสวนสนุกสำหรับเด็กระดับเวิลด์คลาส เพลย์มอนโด’ (Playmondo) ให้ผ่านมาตรฐานระดับโลกและเป็นที่รู้จักได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน

หรรษา  ไกรโกศล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพลย์มอนโด กรุ๊ป ดีกรีปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย (USC) และปริญญาโทด้านปรัชญาการเงิน จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่หลังจากเรียบจบเธอได้เริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในตำแหน่งวาณิชธนกิจ หรือ  ที่ปรึกษาด้านการเงินในธนาคารทิสโก้ ก่อนจะผันตัวไปใช้ชีวิตต่างแดนที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อเป็นที่ปรึกษาแนะนำการลงทุนพอร์ตโฟลิโอขององค์กรขนาดใหญ่เป็นเวลา 3 ปี ซึ่งหลังจากสั่งสมประสบการณ์มาสักระยะแล้ว เธอก็ตัดสินใจนำความรู้มาสานต่อธุรกิจสวนสนุกของครอบครัว พร้อมสร้างโปรเจกต์ใหม่ของตนเองควบคู่ไปด้วยกัน

 “เราเข้ามามีบทบาทในธุรกิจสวนสนุกของครอบครัวเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นตอนที่เข้ามารับช่วงต่อจากพี่ชาย ตอนนั้นเริ่มเข้ามาบริหารแฟม เพลย์แลนด์ กับเพลย์สแควร์ เลเซอร์ แท็ก ที่เซ็นทรัลเฟสติวัลอีสต์วิลล์ โดยในช่วงสามเดือนแรกจะใช้เวลาไปกับการเรียนรู้รูปแบบธุรกิจเดิมที่วางไว้ จากนั้นก็เริ่มลงมือบริหารจัดการ โดยนำความรู้ด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ที่มีมาปรับใช้ ตั้งแต่เรื่องงบประมาณการลงทุน การวิเคราะห์ความต้องการของตลาดและกลุ่มเป้าหมาย หรือแม้กระทั่งการจัดสรรทรัพยากรบุคคลให้มีความเป็นระบบมากขึ้น   ไปจนถึงเรื่องการออกแบบ และฟังก์ชั่นการใช้งานให้มีความทันสมัยและเล่นได้ครบครัน โดยหลังจากนั้นไม่นานเราก็วางแผนขยายสาขาการเปิดตัวเพลย์มอนโดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

“การลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองทำให้เรามีเวลาได้เรียนรู้และค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราได้ดีที่สุด”    แม้การเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวอาจฟังเป็นเรื่องง่าย แต่แท้จริงแล้วหรรษาได้เผยว่าสิ่งที่เธอต้องทำการบ้านหนักที่สุดก็คือความเข้าใจถึงตัวตนของเด็กๆ และความต้องการของผู้ปกครอง

“สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำสวนสนุกเด็กนั้นคือเรื่องของความปลอดภัย การออกแบบภายในสวนสนุกทุกพื้นที่นั้นจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เป็นอันดับแรก รวมถึงการนำเข้าอุปกรณ์แต่ละชิ้นก็ต้องผ่านมาตรฐานสากล ส่วนความต้องการของเด็กๆ ก็ศึกษาข้อมูลจากหนังสือสำหรับเด็กและจิตวิทยาเกี่ยวกับเด็ก เพื่อจะได้เลือกเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กที่สามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาได้ และหากมีเวลาก็จะเดินทางไปเที่ยวชมสวนสนุกนานาชาติหลายๆ แห่ง เพื่อนำไอเดียมาปรับใช้ให้เหมาะกับเมืองไทย”

 แม้ธุรกิจที่เธอทำจะรัดตัวแค่ไหนแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะดูแลตัวเองด้วยการทำกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำลึกที่เธอมองว่าสามารถสร้างสมาธิและจินตนาการได้เป็นอย่างดี รวมถึงเพิ่มพูนความรู้ด้วยการศึกษางานด้านการตกแต่งออกแบบสำหรับเด็ก และหากมีเวลาว่างก็มักจะไปร่วมกิจกรรมอาสาสมัครงานเพื่อการกุศลต่างๆ เพื่อใช้ชีวิตตามแนวคิด Have empathy. Be humble. And give back to those less fortunate. ที่ได้ตั้งใจเอาไว้