ออโรร่าไดมอนด์แนะเคล็ดลับการเลือกซื้อเพชรให้ตัวเอง

ออโรร่าไดมอนด์แนะเคล็ดลับการเลือกซื้อเพชรให้ตัวเอง

แนะนำเคล็ดลับการเลือกซื้อเพชรเป็นของขวัญให้ตัวเองตามแบบฉบับสาวเก่ง ที่เปรียบเสมือนรางวัลอันแสนพิเศษสำหรับผู้หญิงยุคใหม่

ไม่ว่ากี่ยุคสมัยเพชรก็ยังคงเป็นอัญมณีอันแสนล้ำค่าที่เหล่าหญิงสาวล้วนอยากมีไว้ในครอบครองเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าเพชรนั้นสามารถช่วยเติมเต็มลุคให้ดูหรูหรา สง่างาม และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ที่สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเครื่องประดับยอดนิยมสำหรับผู้หญิงยุคใหม่นั้นก็คือ ‘แหวนเพชร’ เพราะสวมใส่ได้ง่าย สามารถใส่ได้ทั้งในชีวิตประจำวัน รวมถึงเวลาออกงานในโอกาสสำคัญต่างๆ และเมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงปลายปีเช่นนี้ หลายคนก็คงอยากซื้อเพชรเพื่อมอบเป็นรางวัลให้กับตัวเอง หลังจากที่เหนื่อยกับการทำงานมาตลอดทั้งปี ล่าสุด ลภัสรดา ฤติวรางค์กูร ผู้อำนวยการธุรกิจเพชรแบรนด์ ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) จึงได้แนะนำเคล็ดลับการเลือกเพชรสำหรับมือใหม่ พร้อมเปิดตัวแหวนเพชรคอลเลกชั่น ‘สปาร์คเกิ้ล’ (Sparkle) ที่ได้บรรจงคัดสรรเพชรสวยหายากซึ่งมีแค่ 2% ของเพชรในโลกจากเพชร ‘ดิ อัลติเมท เลิฟ’ (The Ultimate Love) ของทางแบรนด์มาดีไซน์อย่างสวยสง่าที่สามารถสวมใส่ได้กับทุกลุค

ลภัสรดา ฤติวรางค์กูรแนะนำเคล็ดลับการเลือกซื้อเพชรตามแบบฉบับของผู้หญิงยุคใหม่ว่า ‘สำหรับผู้หญิงที่กำลังเริ่มวางแผนจะซื้อเครื่องประดับเพชรให้กับตัวเอง สิ่งสำคัญอย่างแรกเลยก็คือเราควรมีงบประมาณในใจก่อน เพราะเพชรนั้นมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน เมื่อมีงบในใจแล้วก็ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เครื่องประดับดีไซน์มีความทันสมัย สามารถสวมใส่ได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญต้องมีใบรับประกันคุณภาพสินค้า พร้อมใบรับรองคุณภาพเพชร รวมถึงตัวแบรนด์มีบริการหลังการขายที่ดี แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมีความรู้เรื่องการดูเพชรด้วยเช่นกัน’

โดยข้อควรรู้พื้นฐานก่อนการตัดสินใจซื้อเพชรที่สาวๆ ควรรู้นั้นมีพื้นฐานอยู่ 4 ประการด้วยกัน หรือเรียกว่า 4 Cs เพราะความแตกต่างของราคาเพชรนั้นจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ด้วย

เริ่มจาก สีของเพชร (Colorระดับสีของเพชรนั้นจะถูกแบ่งตามตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เริ่มตั้งแต่ D Color ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำ 100 จะเป็นสีที่ขาวใส ไม่มีสีอื่นเจือปน ไปจนถึง Z Color คือสีที่ค่อนข้างเหลือง ฉะนั้นเพชรที่สีขาวใสก็จะมีมูลค่าสูงกว่า โดยความขาวของเพชรนั้นสามารถดูได้ด้วยตาเปล่า ด้วยเทคนิคง่ายๆคือให้วางเพชรลงบนกระดาษสีขาว จะช่วยให้เห็นสีของเพชรได้ง่ายขึ้น

ต่อมาที่ ระดับความสะอาดของเพชร (Clarity) มีตั้งแต่เพชรที่สะอาดหมดจดไม่มีตำหนิเลย ไปจนถึงมีตำหนิมาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา โดยเพชรที่ไม่มีตำหนิเลยนั้นจะเป็นเพชรที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่หากมีตำหนิเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็จะพบอยู่ในเนื้อเพชร ซึ่งหากจะให้ดีควรเลือกเพชรที่มีตำหนิเป็นสีขาวเพราะจะทำให้มองเห็นได้ยาก โดยระดับความสะอาดที่นิยมของเพชรในเมืองไทยจะเป็นเพชรมีตำหนิที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะจะราคาไม่สูงมากและคุ้มค่ากับการลงทุน

การเจียระไน (Cut) อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของการเลือกเพชรนั้นก็คือสัดส่วนการเจียระไน ซึ่งจะส่งผลต่อความสวยงามและการเล่นแสงของไฟ โดยรูปทรงที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือเพชรทรงกลมเนื่องจากเมื่อเจียระไนออกมาแล้วจะสวยและเล่นไฟวิบวับที่สุด

และ น้ำหนักเพชร (Carat Weightซึ่งหน่วยที่ใช้ในการชั่งน้ำหนักเพชรคือ‘กะรัต’ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อราคาของเพชร เพราะเพชรที่มีขนาดใหญ่ ราคาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเป็นเพชรที่มีน้ำหนักเท่ากันก็ต้องพิจารณาจากปัจจัยข้างต้นประกอบไปด้วย

รวมถึงคุณสมบัติพิเศษอีกหนึ่งประการที่ทำให้เพชรคอลเลกชั่น ‘สปาร์คเกิ้ล’ (Sparkle) มีความงดงามเปล่งประกายและโดดเด่นจากเพชรอื่นๆ นั่นคือการใช้เพชร ดิ อัลติเมท เลิฟ(The Ultimate Love) ที่มี ความมั่นใจ (Confidence) หรือ C ตัวที่ 5 ที่สามารถดูได้จากใบรับรองคุณภาพเพชรจากสถาบันระดับโลกอย่าง The International Institute of Diamond Grading & Research (IIDGR), part of De Beers Group ที่ประเมินและรับรองคุณภาพเพชรเฉพาะเพชรแท้ที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยตรวจสอบคุณภาพเพชร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เพื่อให้ได้ความถูกต้องแม่นยำในการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรมากขึ้น

โดยแหวนเพชรคอลเลกชั่น ‘สปาร์คเกิ้ล’ (Sparkle) จากแบรนด์ ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) นั้นเป็นแหวนที่เหมาะสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ด้วยดีไซน์ที่สวมใส่ได้ทุกวัน โดยทีมดีไซน์ได้เลือกใช้เพชรจาก ดิ อัลติเมท เลิฟ (The Ultimate Love) ของทางแบรนด์ ซึ่งมีสถาบัน Sarine รับรองว่าเพชรเปล่งประกายงดงามเล่นแสงไฟสวยที่สุดในระดับ Ultimate light performance โดยสามารถมองเห็นความงดงามระยิบระยับได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งประดับบนตัวเรือนที่ดีไซน์ขึ้นมาผสานนวัตกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีการตัดเหลี่ยมของเนื้อทองบริเวณหน้าเพชร ให้มีลักษณะคล้ายกับเหลี่ยมเพชร เพื่อเพิ่มการเปล่งประกาย ส่งผลให้เพชรเม็ดยอดดูมีขนาดใหญ่และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือการเจียระไนเพชรสุดพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรในรูปทรงคลาสสิคอย่างทรงกลม ที่มีความงดงามอย่างสมบูรณ์แบบ และเปล่งประกายแวววาวในทุกองศาบนดีไซน์ของตัวเรือนที่ทำจากทองคำแท้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 โทนสีด้วยกัน ได้แก่ เยลโล่ โกลด์ (Yellow gold) และไวท์ โกลด์ (White gold) เพิ่มความสวยสง่าด้วยการประดับเพชรเม็ดเล็กเรียงกันตรงบริเวณตัวเรือน ซึ่งมาในราคาที่เอื้อมถึง หน้าเพชรใหญ่เทียบเท่าขนาด 0.50กะรัต และ 1.00 กะรัต ราคาเริ่มต้นเพียง 37,900 บาท ซึ่งสามารถสร้างความโดดเด่นบนนิ้วอันเรียวยาวของหญิงสาวผู้สวมใส่ได้อย่างน่าจดจำ

 

พบกับเครื่องประดับเพชรดีไซน์คลาสสิคแบรนด์ ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) และห้างเพชรทอง ‘ออโรร่า’ (AURORA) ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ

เกี่ยวกับ ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond)

ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) แบรนด์เครื่องประดับเพชรภายใต้การบริหารงานของลภัสรดา ฤติวรางค์กูร ผู้อำนวยการธุรกิจเพชรแบรนด์ ‘ออโรร่าไดมอนด์’(AURORA Diamond) ที่อยู่ในเครือ บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด ผู้นำด้านทองรูปพรรณที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งอยู่ในตลาดโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยด้วยคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐานสูง ดีไซน์คลาสสิค รวมถึงความเชี่ยวชาญของช่างฝีมือทั้งช่างทอง และช่างเพชรที่มีความละเอียด ปราณีต จึงทำให้เครื่องประดับของออโรร่าได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพมาโดยตลอด ส่งผลให้ในปัจจุบันมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศกว่า200 สาขา และในปี 2017 ทางแบรนด์ได้เพิ่มอีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ให้กับเหล่าหญิงสาวที่ชื่นชอบการสวมใส่เครื่องประดับเพชร ด้วยการเปิดตัว ‘ออโรร่าไดมอนด์’ (AURORA Diamond) เครื่องประดับเพชรสำหรับคนที่ชื่นชอบดีไซน์ที่ทันสมัย และสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับเสื้อผ้าได้ในทุกลุค