มกอช.แจ้งข่าวดีญี่ปุ่นยอมชะลอกฎเหล็ก

มกอช.แจ้งข่าวดีญี่ปุ่นยอมชะลอกฎเหล็ก

“มกอช.”แจ้งข่าวดีเจรจายื้อญี่ปุ่นชะลอการประกาศรับรองการใช้สารฟอสอีทิลปนเปื้อนในข้าวออกไปเป็นผลสำเร็จ จากเดิมเตรียมประกาศใช้มีนาคมนี้  

 

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ. 61) นางสาวเสริมสุข  สลักเพ็ชร์   เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.)  กล่าวว่า หลังจากได้รับมอบหมายจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เดินทางไปประชุมหารือแนวทางการควบคุมความปลอดภัยในสินค้าข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นร่วมกับผู้แทนกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงญี่ปุ่น ณ กรุงโตเกียว เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รายงานผลด่วนมาจากญี่ปุ่นว่า ทางการญี่ปุ่นยินยอมที่จะเลื่อนการออกประกาศบังคับปรับปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (MRL) ของสารฟอสอีทิล
(fosetyl-aluminium) ซึ่งผสมในยาปราบศัตรูพืชปนเปื้อนในสินค้าเกษตร รวมทั้งข้าวในปริมาณไม่เกิน
0.01 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม  จากเดิมที่กำหนดไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ออกไปก่อนจนกว่าจะหารือและได้ข้อสรุปกับประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบแล้วเสร็จ  จากเดิมประกาศดังกล่าวกำหนดเตรียมประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาในเดือนมีนาคม 2561 และจะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม 2561  

นางสาวเสริมสุข กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จของรัฐบาลไทยและเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมข้าวไทยในการมีเวลาหามาตรการรับมือต่อกฎระเบียบใหม่ดังกล่าวที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ มกอช.ในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายไทยจะพยายามเร่งเจรจาต่อรองอย่างสุดความสามารถเพื่อให้รัฐบาลญี่ปุ่นทบทวนการออกกฏหมายสารตกค้างในปริมาณใหม่ไม่ให้กระทบต่ออุตสาหกรรมข้าวไทย  ซึ่งปัจจุบันไทยส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัน/ปี ซึ่งที่ผ่านมาทางญี่ปุ่นได้ขอให้ผู้ส่งออกไทยระมัดระวังเรื่องคุณภาพข้าวให้มากขึ้นโดยเฉพาะสิ่งปลอมปนในสินค้าข้าวอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์ส่งออกข้าวไทยไปยังญี่ปุ่น นับตั้งแต่ญี่ปุ่นเปิดตลาดข้าวตามข้อผูกพันต่อ WTO ในปี 2538  ข้อมูลจากกรมการค้าต่างประเทศ พบว่าในปี 2559 ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากไทย 325,436 ตัน เพิ่มขึ้น
จากปี 2558 ที่มีปริมาณส่งออก 282,613 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.15 สำหรับปี 2560 (เดือน ม.ค.) ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากไทยปริมาณ 45,728 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีปริมาณนำเข้า 33,178 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.83