"จิรายุ" แถลงผลงานกมธ.ฯ จ่อเอาข้อมูล "ขายน้ำประปา" ไร้สัญญาซักฟอกรัฐบาล

"จิรายุ" แถลงผลงานกมธ.ฯ จ่อเอาข้อมูล "ขายน้ำประปา" ไร้สัญญาซักฟอกรัฐบาล

ปธ.กิจการศาล สภาฯ แถลงผลตรวจสอบ 4ประเด็นใหญ่ เตรียมข้อมูลขายน้ำประปาไร้สัญญา อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมเตือน รฟม. คิดให้รอบคอบประมูลเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม

          นายจิรายุ ห่วงทรัพย์  ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน  สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับผลการประชุมของคณะ กมธ. ว่า คณะ กมธ. ได้พิจารณาเรื่องร้องเรียนของประชาชน จำนวน 4 เรื่อง ดังนี้

 

                1. การทำสัญญาซื้อขายน้ำระหว่างการประปาส่วนภูมิภาคกับบริษัทเอกชนโดยไม่มีใบสัญญาสัมปทานซึ่งคณะ กมธ. ได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ตและ จ.พังงา พบว่าหลายบริษัทไม่มีสัญญาสัมปทานจริง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวตนจะนำมาเป็นข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

 

                2. การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มที่มีการล้มการประมูลไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และล่าสุดจะมีการนำขึ้นมาเปิดประมูลใหม่อีกครั้ง แต่ยังมีคดีความที่น่าสนใจที่ต้องพิจารณาต่อว่าหากทำการเปิดประมูลใหม่และมีการฟ้องร้องคดีอีก รัฐ หรือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะสามารถเปิดเดินรถได้หรือไม่  จึงได้เชิญประธานบอร์ด รฟม.และผู้ว่า รฟม. เข้าร่วมประชุม ซึ่งคณะ กมธ. มีข้อเสนอแนะให้ รฟม. ทบทวนและตรวจสอบอย่างความรอบคอบเพื่อไม่ให้ประเทศได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ดีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเคยชี้แจงต่อกมธ.ว่า  หากก่อสร้างไม่แล้วเสร็จภายในปี 2568 ประเทศจะเสียเงินกว่า 42,000 ล้านบาท

                3. การควบรวมกิจการโทรคมนาคม ระหว่าง True กับ Dtac ซึ่งคณะ กมธ. พิจารณาแล้วได้มีข้อสังเกตว่า การควบรวมดังกล่าวมีเงินกองทุนของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้วจะสามารถดำเนินการควบรวมได้หรือไม่  

 

                และ 4. เรื่องท่อแก๊สของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระเบิดเมื่อปี 2563  ที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่ง ปตท. ต้องชี้แจงเป็นเอกสารว่า ระยะทาง 4,000 กิโลเมตร บนแผ่นดินไทยนั้นจะมีความปลอดภัยเพียงใด และจะมีการดำเนินการในรูปแบบใด อย่างไร ต่อไป โดยยังหาเหตุผลชี้แจงกรณีการระเบิดของท่อแก๊สไม่ได้ ซึ่งคณะ กมธ.และพรรคร่วมฝ่ายค้านจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป.