วิบาก “ธรรมนัส” ศัตรูรอบทิศ ระทึกเกมโอเวอร์ เช็กบิลซ้ำ

วิบาก “ธรรมนัส” ศัตรูรอบทิศ ระทึกเกมโอเวอร์ เช็กบิลซ้ำ

ต้องจับตา ปฏิบัติการเช็กบิล "ธรรมนัส" ภาค 2 จากผู้มีอำนาจ ที่จะจัดการตัดช่องทางทำมาหากิน สกัดท่อน้ำเลี้ยงของ“ร.อ.ธรรมนัส” รุกไล่ เกมโอเวอร์ ไม่ปล่อยให้เป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป

เส้นทางทางการเมืองของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ยังคงคอนเซ็ปต์ เล็กๆ ไม่ ต้องเล่นใหญ่เท่านั้น เมื่อความเคลื่อนไหวในสภาที่พร้อมโหวตสวนรัฐบาล การให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และการโพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ที่มักท้าทายเป้าหมายใหญ่คือ“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี เสมอ

หลายข้อความที่ ร.อ.ธรรมนัส สื่อสารกับสังคม แม้จะไม่เอ่ยพาดพิงถึงใคร แต่ก็ทำให้เข้าใจได้ว่า พุ่งเป้าโจมตีไปที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ศัตรูคู่แค้นหมายเลข 1 ของกันและกัน

การออกมาเย้ย ผู้นำรัฐบาล ฝันไปหรือไม่ ว่าจะมีเสียงสนับสนุนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึง260 เสียง และล่าสุด ยกคำพระมาเหน็บแนม เรื่อง “พรหมพินาศ 4” คือ 1.หลงอำนาจ 2.ฉ้อราษฎร์บังหลวง 3.หลอกลวงลูกน้อง และ 4.ยกย่องคนเลว ก็ชัดเจนว่า ร.อ.ธรรมนัส อาศัยทุกช่องทางฟาดไปถึงคู่อาฆาตอยู่เสมอ

ถึงแม้ว่า การชกข้ามรุ่นกับ “พล.อ.ประยุทธ์” จะนำมาซึ่งความบอบช้ำแสนสาหัสให้กับ “ร.อ.ธรรมนัส” ตั้งแต่ครั้งโดนปราบกบฎ ปลดพ้นตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากการเป็นตัวตั้งตัวตี คิดล้มกระดานรัฐบาลประยุทธ์ และยังเจอแรงบีบจนต้องงัดวิธีทำให้ตัวเองถูกขับพ้น“พรรคพลังประชารัฐ” ในที่สุด

ไม่เพียงแต่ “พล.อ.ประยุทธ์” ที่ยืนอยู่ขั้วตรงข้ามเท่านั้น เมื่อลองกวาดสายตาไปแต่ละพื้นที่ ต่างก็มีคู่กรณีของ “ร.อ.ธรรมนัส” อยู่รอบทิศทางเต็มไปหมด

บางกรณีเกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยู่กับ “พลังประชารัฐ” การไต่เต้าขึ้นมามีบทบาท จนได้เป็นเลขาธิการพรรคฯ ต้องฟาดฟันกับกลุ่มก๊วนอื่นๆ ภายในพรรค จนมองหน้ากันไม่ติด

กรณีสู้ศึกเลือกตั้งซ่อม โดยเฉพาะ 3 สนามภาคใต้ ตั้งแต่ นครศรีธรรมราช ชุมพร และ สงขลาสร้างความเจ็บแค้นให้ขุนพล “ประชาธิปัตย์” อย่างหนัก ด้วยวิธีการทำการเมืองแบบ “ธรรมนัสสไตล์” ใช้อำนาจเปิดเกมรุก ไม่เว้นแม้แต่พรรคพวกเพื่อนพ้องพี่น้องคนกันเอง

การรับปากพรรคเล็กบางพรรค ในเรื่องตำแหน่ง ถึงที่สุดก็ทำไม่ได้ตามที่รับปาก กระทั่ง กระเด็นหลุดจาก “พลังประชารัฐ” อำนาจ บารมี ของ “ร.อ.ธรรมนัส” เลยดิ่งลงอย่างหนัก

มิตรที่เคยร่วมรบค่อยๆ แยกทาง นายกฯ อบจ.บางจังหวัดทางภาคใต้ที่เคยถูกกวาดต้อนมาอยู่ในอ้อมอก เวลานี้กำลังเคว้ง เปิดทางเจรจากับหลายพรรค เพราะรู้ดีว่าถ้าจะไปต่อกับ “ร.อ.ธรรมนัส” ดูท่าจะไม่รุ่ง

นอกจากนั้น คดีถือหุ้นในบริษัทที่ทำธุรกิจต่างๆ ในมือ “ป.ป.ช.” กำลังเดินเครื่องไล่บี้ “ร.อ.ธรรมนัส” แม้เจ้าตัวจะมั่นใจคนที่เป็นแบ็คอัพจะสามารถช่วยได้ แต่ก็อาจลืมคิดไปว่า แบ็คอัพคนนั้นที่เป็นคนใกล้ชิดพี่ใหญ่ ซับซ้อนกว่าที่คิด 

บางคนที่เคยเป็นหมาก หรือเป็นมือไม้ ถึงเวลาก็โดนเชือดให้เห็นมาแล้ว ตรงนี้จึงเป็นบ่วงที่รัดคออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นับแต่นี้เป็นต้นไป

สิ่งสำคัญ “พรรคเศรษฐกิจไทย” น้องใหม่ในทางการเมือง มีศึกหนักรออยู่ในการเลือกตั้ง ด้วยระบบบัตร 2 ใบ ต้องต่อกรกับพรรคการเมืองใหญ่ และพรรคที่กระแสคนรุ่นใหม่ดี ตอนนี้หลายคนก็ยังมองไม่ออกว่าพรรคพรรคนี้ จะใช้อะไรเป็นจุดขาย หรือมี “ร.อ.ธรรมนัส” เป็นหัวหอก ก็เพียงพอแล้ว

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่พรรคเศรษฐกิจไทย จะเจาะพื้นที่กวาด ส.ส. เป็นกอบกำ ค่อนข้างยากลำบากในทุกพื้นที่ ยิ่งในวันที่ “ผู้กอง” ถูกกันออกจากวงโคจรอำนาจ

อีกประเด็นที่ต้องจับตา คือ ปฏิบัติการเช็กบิลภาค 2 จากผู้มีอำนาจ ที่จะจัดการตัดช่องทางทำมาหากิน สกัดท่อน้ำเลี้ยงของ“ร.อ.ธรรมนัส” รุกไล่ เกมโอเวอร์ ไม่ปล่อยให้เป็นหอกข้างแคร่อีกต่อไป