ผบ.ตร. ลง จ.สระแก้ว ย้ำ รอคำสั่งภายใต้ยุทธการทหาร ยันร่วมปกป้องอธิปไตยชาติ

ผบ.ตร. ลง จ.สระแก้ว ย้ำ รอคำสั่งภายใต้ยุทธการทหาร ยันร่วมปกป้องอธิปไตยชาติ

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จังหวัดสระแก้วติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รับฟังสถานการณ์และบำรุงขวัญกำลังใจกำลังพล

วันที่13 ต.ค68  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร เดินทางไปยัง บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จว.สระแก้ว ตรวจเยี่ยมให้ขวัญกำลังใจแก่ตำรวจที่ร่วมปฎิบัติภารกิจกับกองทัพ ทั้งฝ่ายปฏิบัติการและส่วนสนับสนุน พร้อมรับฟังสถานการณ์ กำชับการปฎิบัติและการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน  โดยมี พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบช.ตชด., พล.ต.ต.วันชนะ ธรรมเสมา รอง ผบช.ตชด., พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน รอง ผบช.ตชด. และคณะร่วมต้อนรับ

นอกจากนี้ยังตรวจเยี่ยมกองร้อยควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรภาค 2 (ภ.2) และตรวจเยี่ยมกำลังพลตำรวจตระเวนชายแดนที่จุดตรวจบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จากนั้นประชุมรับฟังสถานการณ์ ณ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 พัน 3 รอ.) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติปฏิบัติการภายใต้ยุทธการของกองทัพในการปกป้องแผ่นดินไทยและอธิปไตยของชาติ โดยแนวหน้าได้ส่งกำลังพลคือตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจควบคุมฝูงชน สนับสนุนการปฏิบัติ ส่วนแนวหลังได้สั่งการให้ตำรวจพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชน หากเกิดสถานการณ์ให้เร่งเคลื่อนย้ายประชาชนไปสู่พื้นที่ปลอดภัย

“เรื่องกำลังใจถือเป็นสิ่งแรกที่เราต้องถามเขา ซึ่งตอนนี้ทุกคนมีกำลังใจดีมาก และมีความพร้อมในการปฎิบัติ ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ก็มีการสลับเปลี่ยนที่มีประสิทธิภาพเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้จึงไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล ส่วนที่เข้าไปดูความเรียบร้อยภายในบริเวณบ้านหนองจาน ก็พบว่ามีบ้านอยู่ประมาณ 5 หลัง ที่มีการเคลื่อนย้ายคนกัมพูชาไปแล้ว แต่ในแนวลึกไปกว่านั้น ก็เป็นชุมชนที่มีบ้านหนาแน่นพอสมควร และเราก็กั้นแนวไว้ แต่คงยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนวันที่ 17 ก.ย. ที่มีการปะทะ ก็มีการถอดบทเรียนทุกขั้นตอน เพราะเชื่อว่าฝ่ายนั้นก็ถอดบทเรียนเช่นเดียวกัน และน่าจะมียุทธวิธีที่สลับซับซ้อนมากขึ้น”

ผบ.ตร.กล่าวว่า ตำรวจมีความพร้อม และอยู่ภายใต้ยุทธการของทหาร ก็รอคำสั่งต่างๆตามกฎอัยการศึก เพื่อรักษาพื้นแผ่นดินไทยและอธิปไตยของเรา อะไรที่สามารถเจรจาได้ก็ควรเจรจา แต่หากเจรจาไม่ได้ ก็ต้องใช้กฎหมายนำ  ซึ่งตำรวจเองต้องทำงานเป็น 2 ส่วน ทั้งแนวหน้า และแนวหลัง ที่ต้องดูแลและ เคลื่อนย้ายประชาชน ขณะเกิดสถานการณ์ ส่วนเรื่องการจับแรงงานลักลอบข้ามแดน ก็จะดำเนินตามกฎหมายไทย ก่อนที่จะผลักดันกลับทันที จะได้ไม่เป็นภาระในการดูแล