'สว.-ภท.' ประสานเสียง ไฟเขียว แก้มาตรา256 เปิดทาง สสร.ทำรธน.ใหม่

ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานัทนกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ  ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการประสานงานรัฐสภา ต่อการเตรียมพร้อมพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 14 - 15 ต.ค. ว่า จากที่ได้ฟังทุกฝ่าย และ สว. ไม่ติดใจในหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมายความว่าทุกฝ่ายเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ในสาระของเนื้อหาที่เสนอมาต่อรัฐสภา ทั้ง 3 ฉบับนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นกรรมาธิการที่จะตั้งขึ้นต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และไม่ขัดกับคำวินิจฉัย

“ต้องหารือในกรรมาธิการ หากกรรมาธิการเห็นว่าขัดต่อคำวนิจิฉัยไม่ควรเดินไปในเส้นทางนั้น เพราะหากเดินไป อาจนำไปสู่การแก้ไขที่ไม่สำเร็จได้  ดังนั้นเมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ผมมองว่าการพิจารณาในชั้น กรรมาธิการ คงใช้เวลาไม่นาน และผมเข้าใจว่าสามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนเปิดสมัยประชุม เดือนธ.ค. ได้ และพิจารณาตามขั้นตอนวาระสองและวาระสามต่อไป” นายภราดร กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลได้พิจารณาไทม์ไลน์ถึงการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญพร้อมการเลือกตั้งสส.หรือไม่ เพราะมีการทักท้วงว่าอาจทำได้ไม่พร้อมกัน นายภราดร กล่าวยอมรับว่าร่างกฎหมายประชามติที่แก้ไขเพิ่มเติมยังอยู่ระหว่างการประกาศใช้ ดังนั้นต้องรอดูอีกครั้ง โดยขณะนี้ยังมี 2 ตัวเลือก ซึ่งตนมองว่ามีทางที่พอเป็นไปได้ แต่ต้องใช้เวทีของกรรมาธิการหารือ โดยไทม์ไลน์ของการทำประชามติเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหารือร่วมกันทุกฝ่าย

ขณะที่นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ด้วยว่า สว.ยินดีที่จะพิจารณาเพราะเห็นด้วยว่ารัฐธรรมนูญบางมาตรานั้นเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเมือง อย่างไรก็ดีมีประเด็นที่สว.ส่วนใหญ่ ซึ่งตนเชื่อว่ามี 90% ที่จะไม่เอาประเด็นการแก้ไขหมวด1 และ หมวด 2  ส่วนเนื้อหาที่เสนอให้แก้ไขในประเด็นที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) นั้นไม่ติดใจ เพราะต้องยึดให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก คือให้รัฐสภาเลือก ขณะที่ประชาชนเลือกโดยตรงไม่ได้

เมื่อถามว่าในวาระแรกสว.จะโหวตรับทั้ง3ฉบับหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา ในรายละเอียดว่ากันอีกที