‘รมต.’ ปัดพัลวัน ยัน คุม ‘สคบ.’ ไร้ขัดแย้งทางผลประโยชน์

“สันติ” ปัด พัลวัน คุม “สคบ.” ไร้ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เผย ทำตามขั้นตอนกฎหมายเคร่งครัด ไม่มีธุรกิจลิสซิ่ง ไปแทรกแซงไม่ได้ ยัน ตั้งคณะที่ปรึกษา ดูความเหมาะสม ยึดจริยธรรมเป็นสำคัญ
จากกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กล่าวถึง นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในประเด็นความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในการกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) นั้น
นายสันติ กล่าวว่า การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและการกำกับดูแล สคบ. เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้องและโปร่งใส โดยมีประเด็นชี้แจงดังต่อไปนี้ คือ ตนลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการในบริษัทอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ ปี65 และลาออกจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทใน ปี67 โดยได้ดำเนินการขายหุ้นของบริษัทที่เหลืออยู่จำนวนไม่มากทั้งหมดก่อนเข้ารับตำแหน่งตามระเบียบของทางราชการทุกประการ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างบริสุทธิ์และปราศจากข้อครหา ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดก่อนรับตำแหน่ง และไม่ได้ประกอบธุรกิจลิสซิ่งแต่อย่างใด
ในเรื่องการกำกับดูแล สคบ. รวมถึงหน่วยงานที่กำกับดูแล ไม่มีปัญหาความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์ใดๆ และได้ทราบข้อมูลจาก สคบ.ว่า ปัจจุบันไม่มีเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคต่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตามที่ปรากฏในข่าวแต่อย่างใด ยืนยันรัฐมนตรีไม่สามารถแทรกแซงการทำงานของ สคบ.ได้ เนื่องจากมีกรอบข้อกำหนดของการดำเนินงาน และมีคณะกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบในทุกขั้นตอน จากผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถและเป็นบุคคลภายนอก
นายสันติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาแต่อย่างใด และในการแต่งตั้งที่ปรึกษาจะไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลอย่างแน่นอน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า การคัดเลือกบุคคลเพื่อเข้ามาช่วยในการทำงานของรัฐบาลจะคำนึงถึงความเหมาะสม ความสามารถ และจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นสำคัญ







