'โสภณ' พร้อมทำงานลบคำปรามาส หลังได้ฉายา โสภณ เขากระโดง

ที่ จ.ศรีสะเกษ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเปรียบคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็น ปราสาทสายฟ้าคอนเนคชั่น ว่า เป็นการมองด้วยอคติ และขอให้ดูที่การกระทำ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้เริ่มทำงานถูกตั้งฉายาว่า โสภณ เขากระโดง แล้ว อย่างไรก็ดีตนและนักการเมืองจากจ.บุรีรัมย์ทุกคนในคณะรัฐมนตรีจะต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อลบล้างคำวิจารณ์ดังกล่าว

"ผมเลือกเกิดไม่ได้ แต่เพราะอยู่บุรีรัมย์ แต่สิ่งที่ปรามาสมานั้น ต้องพิสูจน์กัน ในสังคมนี้พอพูดเรื่องดีก็ไม่เชื่อ แต่พอพูดเรื่องไม่ดี กลับเชื่อไว้ก่อนว่าจะทำแบบนั้นจะทำแบบนี้ จึงเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย และการใช้โซเชียลมีเดียที่จริงบ้างเท็จบ้างมาบั่นทอนความน่าเชื่อถือของคนที่ไม่รู้ความจริง วันนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง และไม่ใช่แค่ผมนะ แต่ สส.บุรีรัมย์ นักการเมืองของคนบุรีรัมย์ หรือมีชื่อคนบุรีรัมย์เข้าไปเป็น ครม. ต้องพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เป็นแบบที่พวกเขาคิด ตรงนี้สำคัญ เพราะอนาคตของภูมิใจไทยมันไม่ได้อยู่ที่วันนี้ อนาคตของภูมิใจไทยอยู่ที่ว่า ถ้าเราทำในสิ่งที่ทุกคนคาดผิดหมด พวกผมก็เป็นพระเอก”นายโสภณ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมอภิปรายคุณสมบัติรัฐมนตรีในเวทีแถลงนโยบายของรัฐบาล นายโสภณ กล่าวว่า ไม่กังวล แต่ห่วงว่าระยะเวลา 4 เดือนอาจจะสั้นเกินไปที่จะได้พิสูจน์ผลงาน ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศควบคู่ไปกับการเดินหน้าสู่การยุบสภาและร่างรัฐธรรมนูญตามที่ได้ตกลงในMOAไว้ได้

เมื่อถามถึงภารกิจที่จะรับผิดชอบในรัฐบาลชุดใหม่ นายโสภณ กล่าวว่าตนไม่ถนัดงานด้านเศรษฐกิจ แต่งานด้านสังคม  การศึกษา และโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหายาเสพติด ถือเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่พร้อมจะทำ ทั้งนี้ช่วง 2 ปีที่ตนเป็น สส.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เร่งแก้ปัญหายาเสพติดใน 6 อำเภอของ จ.บุรีรัมย์ จนเห็นผลสำเร็จ  ทั้งนี้ตนอท้าสื่อมวลชนและหน่วยงานราชการไปดูที่ อำเภอลำปลายมาศ อำเภอคูเมือง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์  ซึ่งมีศูนย์บำบัด ติดตาม แยกผู้ป่วย และตนจะพาไปชม สิ่งที่ตนอยากเห็นคือการพัฒนาด้านการศึกษาและการแก้ปัญหายาเสพติด

เมื่อถามถึงข้อกล่าวหาในอดีตที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ นายโสภณ กล่าวว่า สมัยที่ดำรงตำแหน่งรมว.คมนาคม เคยถูกยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่สุดท้ายผลการสอบสวนได้ยกคำร้องทั้งหมด และขณะนี้ไม่มีเรื่องคดีค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. สำหรับใน ครม.นี้จะมีใครถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบหรือไม่นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และรมว.มหาดไทยได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้น เพราะมีอนาคตทางการเมืองอยู่ ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีมีกำแพงพิงที่จะไม่ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า แม้จะเป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือน ไม่ควรนำชีวิตการเมืองไปผูกไว้

เมื่อถามถึงการประเมินภาพลักษณ์ของ ครม. โดยรวม นายโสภณ กล่าวว่า ต้องพิสูจน์กัน ในทางการเมือง นักการเมืองที่อยู่วังวนเคยร่วมงานกัน แต่ในส่วนตัวความผิดต้องตัดสินด้วยกฎหมาย ดังนั้นใครถูกกล่าวหาก็ต้องพิสูจน์ตามกระบวนการ  ส่วนฝ่ายค้านจะทำอะไรก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา และหวังว่าสังคมจะให้ความยุติธรรม