'ก้าวไกล' เห็นด้วยแก้ กม.สกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

'ก้าวไกล' เห็นด้วยแก้ กม.สกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

'ไอติม พริษฐ์' ยกนิ้วเห็นด้วย 'สุทิน' ชงแก้ร่างกฎหมาย 'สภากลาโหม' ปิดช่องรัฐประหาร รอดูตัวแปรสำคัญปฏิรูปอำนาจที่มาได้อย่างไร ลั่นกองทัพต้องอยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลพลเรือน 

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2567 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.ศาลทหาร (ฉบับที่…) พ.ศ. … เพื่อป้องกันการรัฐประหาร ว่า ความจริงร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เป็นกฎหมายฉบับแรก ๆ ที่พรรคก้าวไกลยื่นให้มีการแก้ไขต่อสภาฯ และเห็นว่าเป็นร่างกฎหมายที่มีความสำคัญ หรือมีความจำเป็นที่ต้องมีการแก้ไขเพื่อยืนยันหลักการว่ากองทัพควรอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน ดังนั้น เป็นเรื่องดีที่ทางรัฐบาลเห็นความจำเป็นในการแก้ไขร่างดังกล่าว เพียงแต่อยากให้เนื้อหาแก้ไขที่แก่นสารโดยแท้จริง ตัวแปรสำคัญคือจะปฏิรูปเรื่องอำนาจที่มาของสภากลาโหมอย่างไร

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า หากเป็นร่างที่เสนอโดยพรรคก้าวไกลจะเห็นว่าปรับในส่วนของอำนาจที่เปลี่ยนจากเดิม คือสภากลาโหมมีอำนาจเหนือกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลพลเรือน มาทำให้บทบาทของสภากลาโหม เป็นเหมือนสภาที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ให้ข้อมูลกับตัวแทนของรัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มาจะมีการปรับสัดส่วนให้มีตัวแทนที่เชื่อมโยงกับรัฐบาล และพลเรือนมากขึ้น ไม่ได้เป็นเหมือนปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการทหาร ฉะนั้น ต้องรอดูว่าร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลจะแก้ไขเรื่องที่มาของอำนาจสภากลาโหมเช่นไร แต่เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลเห็นความจำเป็นของการแก้ไขร่างนี้