ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

แรงกระเพื่อม ปรับ ครม. ‘สุทิน-ชลน่าน’ รัฐมนตรีนกแล มีชื่ออยู่ในโพยถูกเด้ง สะเทือนใจ สส.อาวุโสผู้ภักดีพรรค และ สส.อีสานส่วนใหญ่

เพื่อไทยยุค ‘เถ้าแก่ใหญ่’ กลับมาคุมเอง บารมีในพรรคล้นเหลือ แต่คะแนนนิยมในตลาดการเมืองหดหาย อดีตที่ยิ่งใหญ่ไม่มีวันหวนคืน

วันอาทิตย์ที่ 21 เม.ย. 2567 นิด้าโพล เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนเรื่องจากบทบาท ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงเวลานี้ นับแต่ออกจาก รพ.ตำรวจ พบว่า ร้อยละ 40.61 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อคะแนนนิยมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทย 

ประเด็นความเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ร้อยละ 32.98 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย

เสียงสะท้อนประชาชนผ่านนิด้าโพลบอกว่า บริบทเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองไทยเปลี่ยนไป โหวตเตอร์รุ่นใหม่ ไม่รู้จักทักษิณ และความสำเร็จของพรรคไทยรักไทย

ทักษิณ ชินวัตร อาจมีบารมีล้นพรรค แต่สถานการณ์การเมืองใน พ.ศ.นี้ คะแนนนิยมในหมู่ประชาชนไม่เหมือนเดิม ฉะนั้น แรงกระเพื่อมในกระแสข่าว ปรับ ครม. กลับมีปฏิกิริยากว้างขวางในกลุ่ม สส.อาวุโส และ สส.ภาคอีสาน

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

ที่สำคัญ กระแสข่าวการจะปรับ สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พ้นจากตำแหน่ง และกลับไปทำงานสภาฯ ได้ทำให้มีคำถามจากผู้แทนฯรุ่นเก่าว่า บุคลากรที่ทุ่มเททำงานเพื่อพรรค มายาวนานจะถูกทิ้งขว้างอย่างนี้หรือ?

สุทิน คลังแสง และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เป็นตำนาน "สส.นกแล" ของพรรคทักษิณ ซึ่งคำว่า ‘สส.นกแล’ คือ สส.หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานการเมือง ไม่ได้มีเส้นสายหรือสืบสายเลือดจากนักการเมืองรุ่นก่อน

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

ก่อนเข้าสู่ร่มเงาของพรรคไทยรักไทย ทั้งสุทิน-ชลน่าน ต่างเคยเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ชื่นชอบแนวทางปฏิรูปการเมือง คิดใหม่ทำใหม่ จึงเข้าร่วมงานกับพรรคนี้

22 ปีผ่านไป สิ่งที่เกินฝันสำหรับสุทินคือ การได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม เพราะก่อนหน้านั้น ก็หวังแค่รัฐมนตรีสำนักนายกฯ

ชลน่านเองหวังจะได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎ แต่เพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ จึงต้องเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุข แลกกับต้นทุนการเมืองที่หายไปในเกมรัฐบาลพิเศษสลายขั้ว

พายัพคอนเนกชั่น

นักข่าวหลายสำนักที่ไปทำข่าวทักษิณ ชินวัตร นัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกับรัฐมนตรีสายเพื่อไทย ที่ร้านเลอค็อกดอร์ จ.เชียงใหม่ ไม่ได้สังเกตว่า สุทิน คลังแสง มายืนรอพบอดีตนายกฯทักษิณ พร้อมกับพายัพ ชินวัตร โดยทั้งคู่ถือพวงมาลัยเหมือนกัน

ดูเหมือนวันนั้น นักข่าวจะไปโฟกัสที่ภาพสุทิน พยายามจะนำพวงมาลัยมอบให้ทักษิณ แต่ถูกอีกฝ่ายเมินหน้าหนี

สัปดาห์ที่แล้ว สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เพิ่งมาอธิบายเรื่อง ดราม่าทักษิณเมิน โดยตอนหนึ่งพูดว่า “ผมอยู่กับท่านพายัพ ชินวัตร ท่านพายัพก็ถือ ผมก็ถือพวงมาลัย ก็คุยกัน ท่านพายัพบอกว่าไม่เหมาะหรอก...จากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยในห้อง แล้วก็มอบให้ แต่ตอนมอบคนไม่ได้ดู”

นอกจากนี้ สุทินยังบอกว่า ตัวเขาเองได้เข้าพบทักษิณเป็นการส่วนตัวตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.2567 มีการพูดคุยอย่างเป็นกันเอง 

เมื่อเอ่ยชื่อ พายัพ ชินวัตร น้องชายของนายใหญ่ หลายคนอาจจำได้ว่า ช่วงต้นเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว มีมือดีเผยแพร่ร่างคำสั่งกลาโหม เพื่อเตรียมแต่งตั้งทีมทำงานของสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม 

ปรากฏว่า ทีมทำงานของสุทินมีชื่อ พายัพ ชินวัตร เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.กลาโหม และพอพงษ์ ชินวัตร ลูกชายพายัพ เป็น เลขานุ การประจำตัว รมว.กลาโหม

พลันที่มีเอกสารหลุดไป สุทินรีบออกมาปฏิเสธข่าวนี้ และบอกว่าเป็นเอกสารปลอม 

ถัดจากนั้นไม่กี่วัน สุทิน คลังแสง เสนอชื่อ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม และ พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เป็นที่ปรึกษา รมว.กลาโหม

กูรูการเมืองวิเคราะห์ว่า การแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล และ พล.อ.สมศักดิ์ นั้นเป็นไปตามข้อตกลงในดีลลับลังกาวี

การปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ บิ๊กเล็ก พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จะขยับขึ้นเป็น รมช.กลาโหม ค่อนข้างแน่ แต่สุทิน คลังแสง จะได้เป็น รมว.กลาโหมต่อไปหรือไม่ คงต้องลุ้นสัปดาห์หน้า

ลมใต้ปีกชื่อหมอก้อย

ไหล่ หรือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เกิดในครอบครัวชาวไร่ชาวสวนที่บ้านนาสา อ.เวียงสา จ.น่าน หลังจากแม่เสียชีวิต ตอนที่ไหล่หรือชลน่าน อายุได้ 4 ปี

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

เจ้าอาวาสวัดไหล่น่าน นำ ด.ช.ไหล่ ไปอยู่ที่วัดและและเรียนที่โรงเรียนบ้านบุญเรือง จนเรียนมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเวียงสา

ไหล่หรือชลน่าน เป็นเด็กรูปหล่อ เรียนดีแต่ยากจน เมื่อเรียนจบ ม.ศ.5 ก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยสอบติดคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

หลังจบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นพ.ชลน่าน ใช้เวลา 14 ปี กับการเป็นแพทย์ในจังหวัดน่าน

จุดเปลี่ยนของชลน่าน เมื่อวันหนึ่งเข้ารู้สึกว่า การเป็นหมอตัวเล็กๆ อยู่ในชนบท มีข้อจำกัดในการช่วยเหลือคนอื่น จึงอยากทำงานการเมือง

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

กว่า 20 ปีที่ผ่านมา คนเมืองน่านทราบดีว่า หมอก้อย หรือ พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ คู่ชีวิต นพ.ชลน่าน ทำหน้าที่เป็นผู้แทนนอกสภา คอยดูแลพี่น้องในเขตเลือกตั้ง 2 ไม่มีขาดตกบกพร่อง

หากจะกล่าวว่า หมอก้อยเป็นลมใต้ปีกของหมอชลน่าน ก็ไม่ผิดนัก ซึ่งทุกฤดูเลือกตั้ง หมอก้อยจะคอยช่วยสามีวางแผนการตลาดการเมือง รณรงค์หาเสียงในพื้นที่ จ.น่าน ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านสื่อมาหลายสิบปี

เชื่อว่าทุกข์หรือสุข หมอก้อยพร้อมจะยืนเคียงข้างหมอชลน่าน ปีที่แล้ว ทั้งคู่ก็ฝ่ากระแสดราม่ารัฐบาลข้ามขั้วผ่านมาได้อย่างสาหัส

หมอชลน่านจะหลุดจากตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ไปทำงานสภาตามที่มีกระแสข่าวลือหรือไม่ คงลุ้นไม่แพ้บิ๊กทินเช่นกัน

เหนืออื่นใด หากผู้มากบารมีเลือก สมศักดิ์ เทพสุทิน มานั่ง รมว.สาธารณสุข เท่ากับว่า สส.นกแลในพรรคทักษิณก็แค่ตัวสำรอง ไม่ใช่ตัวจริงแบบ สส.บ้านใหญ่ 

ดวงชะตา ‘เสนาบดีนกแล’ ในอุ้งมือ ‘เถ้าแก่ใหญ่’

กรณีสุทิน-ชลน่าน ต้องหลุดจากตำแหน่งเสนาบดีนกแล น่าจะก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำ และสะสมความไม่พอใจในกลุ่ม สส.อาวุโส

วันนี้ อาจไม่มีแรงปะทุจากใต้น้ำ แต่วันหน้า เถ้าแก่ใหญ่ที่เชื่อมั่นตัวเองสูงอาจได้บทเรียนอันเจ็บปวด เหมือนเพื่อไทยชวดแชมป์ สส. หลังเลือกตั้งสมัยที่แล้ว