ทรัพย์สิน 30 ล. ‘พล.อ.กนิษฐ์’ นั่งบอร์ดนิคมอุตฯ มือประสานการเมือง รทสช.

เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2567 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่รัฐหลายราย โดยมีชื่อของ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา กรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2567

โดย พล.อ.กนิษฐ์ หรือ “เสธ.อ้น” แจ้งสถานะว่า “หย่า” เมื่อ 28 มิ.ย. 2562 แต่แจ้งอยู่กินกันฉันสามีภริยากับ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขานุการ รมว.อุตสาหกรรม (พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล)

พล.อ.กนิษฐ์ แจ้งมีทรัพย์สิน 14,465,524 บาท ได้แก่ เงินฝาก 267,440 บาท เงินลงทุน 3,000,829 บาท ที่ดิน 1.6 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,720,000 บาท ยานพาหนะ 2,150,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 2,277,975 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 449,279 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 213,628 บาท

ส่วน น.ส.ไพลิน แจ้งมีทรัพย์สิน 16,483,612 บาท ได้แก่ เงินฝาก 549,595 บาท เงินลงทุน 110,470 บาท ที่ดิน 6.4 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 6 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 910,357 บาท ทรัพย์สินอื่น 5,113,189 บาท มีหนี้สิน 5,915,577 บาท (ส่วนใหญ่เป็นหนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.))
    
ทรัพย์สินที่น่าสนใจ พล.อ.กนิษฐ์ แจ้งถือครองปืนพก 2 กระบอก ได้มาปี 2559 รวมมูลค่า 1 แสนบาท สร้อยคอทองรูปพรรณ น้ำหนักทอง 3 บาท ได้มา 15 ต.ค. 2563 มูลค่า 98,691 บาท กรอบพระเลี่ยมทอง น้ำหนักรวมทอง 4 บาท ได้มาวันเดียวกัน มูลค่า 131,588 บาท ส่วน น.ส.ไพลิน แจ้งถือครองปืน 1 กระบอก มูลค่า 7 หมื่นบาท นอกจากนี้ยังมีสร้อยคอทองคำ สร้อยข้อมือ เข็มขัดทอง ได้มาระหว่างปี 2560-2565 อีกหลายเส้น

รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 30,949,137 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 6,129,205 บาท

สำหรับ พล.อ.กนิษฐ์ หรือ “เสธ.อ้น” ในแวดวง “ลายพราง” ทราบกันดีว่าคือ “น้องรักสายตรง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเขาเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 19 และ จปร.30 เติบโตมาจากบ้านทหารเสือ ร.21 รอ. ก่อนจะเกษียณชีวิตราชการในตำแหน่ง หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา โดยมีหน้าที่ด้านข่าวกรองทางการทหาร
    
สำหรับบทบาททางการเมือง เริ่มขึ้นเมื่อปี 2562 ว่ากันว่า “เสธ.อ้น” คือหนึ่งในมือทำงาน “หลังม่าน” ของ พปชร.รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลางกับอดีต สส.-บ้านใหญ่จากหลายพรรค นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการกดดันให้ “กลุ่ม 4 กุมาร” ต้องลาออกจากพรรค และตำแหน่งรัฐมนตรี จนเปิดทางให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาเป็นหัวหน้า พปชร.

ต่อมาก่อนการเลือกตั้ง 2566 “บิ๊กตู่” พร้อมสมัครพรรคพวกได้ออกจากร่มเงา “พี่ใหญ่” มาตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) “เสธ.อ้น” ที่เป็น สว. ได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อมาล่มหัวจมท้ายกับ รทสช. โดยว่ากันว่าเขาคือหนึ่งในมือไม้สำคัญทำงานเบื้องหลังประสาน 10 ทิศ กรุยทางคอนเนกชั่นทางการเมือง เพื่อหวังผลักดันให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯคนที่ 30 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดีหลังการเลือกตั้ง รทสช.ได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล และในรัฐบาลนายเศรษฐา ครม.ได้แต่งตั้งให้เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย