'กมธ.ไอซีที' ชง ส.นายกฯ-ป.ป.ช. เช็ค ปัญหาตั้ง เลขากสทช.

'กมธ.ไอซีที' ชง ส.นายกฯ-ป.ป.ช. เช็ค ปัญหาตั้ง เลขากสทช.

"กมธ.ไอซีที วุฒิสภา" ตรวจงาน กสทช. พบปัญหา ตั้ง เลขาฯกสทช. ยังค้างเติ่ง ส่อเกิดความเสียหาย ชง ส.นายกฯ- ป.ป.ช. ตรวจสอบ

ที่วุฒิสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา  แถลงต่อกรณีศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับ กระบวนการแต่งตั้งเลขาธิการ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) พ.ศ. 2533 ซึ่งมีข้อเสนอที่แตกต่างเกี่ยวกับการตั้งเลขา กสทช.

โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สว. ฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ กสทช.  กล่าวว่าผลการศึกษา พบว่ามี 2 ความเห็น คือ  ให้เป็นอำนาจของประธาน กสทช.  และอีกส่วนเห็นว่าเป็นหน้าที่ขององค์กรกลุ่มซึ่งสอดคล้องกับการเลือกในอดีต ทั้งนี้ในประเด็นที่มีความล่าช้าของกระบวนการตั้งเลขา กสทช. กว่า 3 ปี นั้นเห็นว่า ตำแหน่งดังกล่าวมีความสำคัญ การที่ไม่เร่งพิจารณา ถือเป็นการทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. เสียหาย เพราะเป็นองค์กรดูแลคลื่นความถี่ได้ผลประโยชน์จากคลื่นความถี่จึงกระทบต่อการทำงาน  ส่วนจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เป็นสิ่งที่น่าคิด

“จากการศึกษานอกจากความขัดแย้ง ความเห็นไม่ตรงกัน ยังมีเหตุการณ์แทรกซ่อน กรณีถ่ายทอดฟุตบอลโลกที่มีการกล่าวหา นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ทำการมิชอบด้วยกฎหมาย และมีมติ เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เลขาคนใหม่มาทำหน้าที่สอบสวน แต่ประธาน กสทช. ไม่ลงนามจึงเป็นเหตุการณ์บานปลายสร้างความเสียหายให้ กสทช. จึงจะเสนอรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป” พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

ทางด้านนายประพันธ์ คูณมี  สว. ฐานะ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า นับแต่ 1 ก.ค.2563 ที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ลาออก และตั้งรักษาการมาจนปัจจุบัน เกือบ4 ปี ดังนั้นนายไตรรัตน์ ทำหน้าที่รักษาการเกือบครบวาระแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ วุฒิสภาเห็นว่า จะเกิดความเสียหายต่อประเทศและประชาชน หลายโครงการเดินหน้าไม่ได้ สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้นเพราะมีการตีความตามกฎหมายต่างกัน   ส่วนกรณีทที่ประธานออกประกาศเพื่อคัดเลือกเลขา กสทช.เอง ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนตามกฎหมาย เพราะไม่ใช่เลขานุการของประธาน แต่เป็นเลขาองค์กร ต้องทำงานรับใช้องค์กร เมื่อประธานประกาศและคัดเลือกเองเฉพาะตัวประธานก็ใช้เวลา 1 ปี 9 เดือนกว่าจะมาเสนอกรรมาการในที่ประชุม แต่ไม่ได้ให้ความเห็นชอบเพราะกรรมการไม่กล้ารับรอง จึงเกิดความล่าช้า

“ตาม พ.ร.บ.กสทช. กำหนดกรอบเวลาในการสรรหาเลขาต้องทำให้ได้ในกรอบ 90 วัน แต่ 3 ปีกว่าไม่สามารถตั้งได้ สะท้อนถึงการปฏิบัติหน้าที่ของผู้นำและคณะกรรมการองค์กรนั้น ดังนั้นในทางกฎหมายถือว่า เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ให้เสียหาย ล่าช้าเกินสมควร ทั้งนี้ข้อสรุปที่ได้ศึกษาหากพบว่าอะไรส่อไปในทางมิชอบด้วยกฎหมายจะเสนอรายงานไปถึงหน่วนงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการป.ป.ช.และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ดำเนินการร้องศาลตามขั้นตอนต่อไปได้ รวมถึงไปยัง กสทช. ด้วย หากพบว่าใครทำผิดก็ขอให้ดำเนินการ” นายประพันธ์ กล่าว.