ผ่าสมรภูมิ ‘เชียงใหม่’ สแกนขุมกำลัง ‘ชินวัตร-ก้าวไกล’
สายน้ำปิงไม่ไหลกลับ ‘ทักษิณ’ เจอโจทย์ยากทวงคืนเชียงใหม่ ‘ก้าวไกล’ รุกคืบยึดท้องถิ่นทุกระดับ จับตาตัวแปร ‘บูรณุปกรณ์’
สแกนพื้นที่การเมืองเชียงใหม่ พ.ศ.นี้ ก้าวไกลแชมป์ สส. เพื่อไทยยังยึดครอง อบจ. และตระกูลบูรณุปกรณ์ คุม 2 เทศบาลใหญ่
สถานการณ์การเมืองในเชียงใหม่ ได้รับความสนใจจากผู้คนอีกครั้ง เมื่อทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไปกราบอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตร เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี
เชียงใหม่ ไม่ใช่แค่บ้านเกิดของทักษิณ หากแต่เป็นฐานที่มั่นการเมืองของตระกูลชินวัตร อันสืบต่อกันมาตั้งแต่รุ่นปู่เลิศ จนถึงรุ่นหลาน-อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร
ปัจจุบัน แผนที่ทางการเมืองระดับชาติของเชียงใหม่เปลี่ยนไปอย่างน่าตกใจ จากสีแดงกลายเป็น ‘สีส้ม’ เกือบทั้งจังหวัด
เฉพาะ อบจ.เชียงใหม่ ที่ยังอยู่ในการบริหารของทีมเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายกฯก๊อง-พิชัย เลิศพงศ์อดิศร
ส่วนเทศบาลขนาดใหญ่ใน อ.เมืองเชียงใหม่ 2 แห่งคือ เทศบาลนครเชียงใหม่ และเทศบาลตำบลช้างเผือก บริหารงานโดยกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ของตระกูลบูรณุปกรณ์
การเลือกตั้งท้องถิ่นเชียงใหม่ช่วงปี 2568-2569 จะเป็นบททดสอบอันสำคัญของตระกูลชินวัตร หากพ่ายแพ้แก่พรรคก้าวไกล เหมือนเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ย่อมสะท้อนอนาคตของทักษิณ
ยุคทองไทยรักไทย
ดังที่ทราบกัน ทักษิณ ชินวัตร นำทัพพรรคไทยรักไทย เข้าสู่สมรภูมิเลือกตั้ง สส.ครั้งแรกปี 2544 โดยสนามเชียงใหม่ ทักษิณมอบให้เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นแม่ทัพใหญ่
เจ๊แดง เยาวภา เจรจากับปกรณ์ บูรณุปกรณ์ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม และอดีต สส.บ้านใหญ่จากหลายพรรค จัดทีมผู้สมัคร สส.เชียงใหม่ 10 เขต
ด้วยกระแสนายกฯลูกข้าวนึ่ง ไทยรักไทยกวาดเก้าอี้ สส.เชียงใหม่ 9 ที่นั่ง เหลือให้พรรค ปชป. 1 ที่นั่ง
สส.เชียงใหม่ ไทยรักไทยสมัยนั้น ประกอบด้วย เขต 1 ปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ,เขต 2 เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ,เขต 3 บุญทรง เตริยาภิรมย์ ,เขต 4วิทยา ทรงคำ ,เขต 5 พรชัย อรรถปรียางกูร, เขต 6 นพคุณ รัฐผไท ,เขต 7 สุรพล เกียรติไชยากร ,เขต 8 ผณินทรา ภัคเกษม และเขต 10 สันติ ตันสุหัช
มีข้อน่าสังเกต เจ๊แดงลงสมัคร สส.เขต ร่วมกับปกรณ์ บูรณุปกรณ์ และมีดาวรุ่งดวงใหม่ที่มาจากภาคธุรกิจคือ บุญทรง เตริยาภิรมย์
ส่วนเขต 9 ยงยุทธ สุวภาพ พรรค ปชป.แทรกเข้ามาได้ เพราะเขตนี้ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีต สส.เจ้าถิ่น ประกาศเว้นวรรค
ครั้นเลือกตั้งปี 2548 สมพงษ์ตอบรับคำเชิญของทักษิณและเจ๊แดง ได้ส่งลูกชาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ลงสนามเขต 9 ก็เป็น สส.มาแต่สมัยโน้นจนถึงปัจจุบัน
ยุคเปลี่ยนผ่าน
นักวิชาการในรั้ว มช.ต่างคาดไม่ถึงว่า กระแสพิธาจะแรงถึงขั้นส่งผลให้ภูมิทัศน์การเมืองเชียงใหม่เปลี่ยนแปลง จากเขตอิทธิพลของตระกูลชินวัตร กลายเป็นที่มั่นใหม่ของก้าวไกล
กว่า 20 ปี สส.เชียงใหม่ ถูกผูกขาดโดยอดีต สส. และลูกหลาน สส.บ้านใหญ่ในสีเสื้อเครือข่ายชินวัตร แต่ปี 2566 สส.เชียงใหม่ 7 คน มาจากพรรคก้าวไกล พวกเขาเป็นลูกชาวบ้าน
เขต 1 เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ,เขต 2 การณิก จันทดา, เขต 3 ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล ,เขต 4 พุธิตา ชัยอนันต์ ,เขต 6 อรพรรณ จันตาเรือง,เขต 7 สมดุลย์ อุตเจริญ และเขต 8 ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์
หลังเลือกตั้ง ทักษิณ ชินวัตร รู้สึกเสียหน้าและวิจารณ์ลูกพรรคในคลับเฮาส์ เมื่อเพื่อไทย ได้ สส.เชียงใหม่ เพียง 2 ที่นั่งคือ เขต 5 จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และเขต 10 ศรีโสภา โกฏคำลือ
ส่วนเขต 9 นเรศ ธำรงทิพยคุณ พรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในสังกัดกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม
ดูเหมือนว่า ตระกูลบูรณุปกรณ์ ได้ฝากนเรศไว้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ตั้งแต่เลือกตั้งปี 2562 แต่มาประสบความสำเร็จในปี 2566
อบจ.ใต้ร่มเงาชินวัตร
ปลายปี 2563 สังเวียนศึกนายก อบจ.เชียงใหม่ ไม่ต่างจากสงครามคนกันเอง เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่าง บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม กับ พิชัย เลิศพงษ์อดิศร พรรคเพื่อไทย
บุญเลิศ เป็นน้องชายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ (เสียชีวิตแล้ว) ถูกกล่าวหาว่า สนับสนุนพลังประชารัฐ เพราะมีภาพตัวเขาไปร่วมงานเปิดสาขาพรรคพลังประชารัฐ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นแกนนำภาคเหนือเมื่อปี 2562
เนื่องจากตระกูลบูรณุปกรณ์ ยึดครอง อบจ.เชียงใหม่ มาหลายสมัย จึงมีแต้มต่อคนเพื่อไทย ทักษิณกลัวแพ้ จึงเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว พร้อมส่งภาพคู่ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ อ้อนชาวเชียงใหม่ ให้สนับสนุนพิชัย เลิศพงศ์อดิศร
เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และเยาวเรศ ชินวัตร ก็ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยพิชัยในโค้งสุดท้าย
คนเชียงใหม่วิจารณ์กันเยอะ กรณีทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะตระกูลบูรณุปกรณ์ และคนที่เจ็บปวดที่สุดคือ บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้ถูกประทับตราว่าเป็นผู้ทรยศนายใหญ่
บ้านใหญ่บูรณุปกรณ์
หลัง สว.ก๊อง-พิชัย เลิศพงศ์อดิศร โค่นแชมป์เก่าได้เป็นนายก อบจ.เชียงใหม่ ทำให้พรรคเพื่อไทย มีความฮึกเหิมในสนามเลือกตั้งนายก เทศมนตรีนครเชียงใหม่
ต้นปี 2564 เพื่อไทยส่ง ชาตรี เชื้อมโนชาญ ลงสมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ชน อัศนี บูรณุปกรณ์ ลูกชายประพันธ์ บูรณุปกรณ์ ในฐานะตัวแทนกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม
เทศบาลนครเชียงใหม่ อยู่ในการบริหารงานของกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม มายาวนานกว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นจากปกรณ์ บูรณุปกรณ์ ,บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ และทัศนัย บูรณุปกรณ์
ในที่สุด อัศนี บูรณุปกรณ์ ก็เอาชนะชาตรี เชื้อมโนชาญ ค่ายเจ๊แดงไปได้ ถือว่ากอบกู้ศักดิ์ศรีบ้านใหญ่คืนกลับมา หลังพ่ายศึกนายก อบจ.
นอกจากนั้น กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ยังเอาชนะได้ที่เทศบาลตำบลช้างเผือก ทำให้บ้านใหญ่เชียงใหม่ ยังยึดพื้นที่ใจกลางเขตเศรษฐกิจเชียงใหม่เอาไว้ได้
การเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่จะมีขึ้นในปีหน้า ก็จะเป็นการต่อสู้เพื่อทวงคืนเชียงใหม่ของตระกูลชินวัตร โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ พรรคก้าวไกล
วันนี้ ค่ายก้าวไกลกำลังจัดเตรียมผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ และเทศบาลนครเชียงใหม่ โดยมี ไพรัช ใหม่ชมภู อดีตรองนายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นคีย์แมนคนสำคัญสำหรับทัพท้องถิ่นสีส้ม
เหนืออื่นใด ตัวแปรที่สำคัญในสนามท้องเชียงใหม่คือ ตระกูลบูรณุปกรณ์ ที่ยังมีความหลังฝังใจกับนายใหญ่และเจ๊แดง พวกเขาจะเลือกขั้วไหน ระหว่างส้มกับแดง