'วราวุธ' เล็งควบรวม บัตรผู้พิการ-บัตรประชาชน ยันสวัสดิการครอบคลุมคนมีคดี

'วราวุธ' เล็งควบรวม บัตรผู้พิการ-บัตรประชาชน ยันสวัสดิการครอบคลุมคนมีคดี

“วราวุธ” ขอบคุณ มท. ช่วยเหลือคนพิการจัดทำบัตรประชาชน และย้ายทะเบียนบ้านกลับ จ.สุโขทัย เผย มีแนวคิดควบรวมบัตรผู้พิการกับบัตรประชาชนเข้าด้วยกัน ยัน ทุกคนได้รับสวัสดิการแม้มีคดีติดตัว

6 ก.พ.2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาให้ นายมลฑล ชายพิการอายุ 48 ปี ที่ถูกตัดสิทธิเบี้ยพิการ ว่า เราไม่ทราบว่าเขาหายไปไหนมาประมาณ 2 ปี ทำให้ที่บ้านและหลายฝ่ายตามตัวไม่เจอ ซึ่งส่งผลให้ทะเบียนบ้านถูกย้ายออกจากทะเบียนบ้านปกติไปอยู่ทะเบียนบ้านกลาง ทำให้บัตรประชาชนไม่สามารถนำไปติดต่อ หรือ รับสิทธิต่างๆจากทางราชการได้ ดังนั้นขั้นตอนแรกคือเราต้องย้ายเจ้าตัวออกจากทะเบียนบ้านกลาง ไปอยู่ทะเบียนบ้านปกติก่อน ซึ่งทราบว่าจะย้ายไปอยู่ที่บ้านเกิดอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เพราะถ้าทำได้สิทธิต่างๆจะกลับมา 

ส่วนกรณีมีข้อสังเกตว่า นายมลฑล เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทำให้ถูกตัดสิทธินั้น ยืนยันว่าไม่จริง ทุกกรณีสิทธิของคนพิการยังอยู่ รวมถึงแม้แต่ผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำก็ยังสามารถรักษาสิทธิคนพิการได้ จึงขอฝากไปยังคนพิการถ้าหากอยู่ในคุกสามารถไปแจ้งการรักษาสิทธิคนพิการได้ที่ผู้คุมเรือนจำ 

ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้ไปหาตัวและให้ความช่วยเหลือทำบัตรประชาชน รวมถึงย้ายทะเบียนบ้านให้ใหม่ ซึ่งถ้าย้ายทะเบียนบ้านได้ สิทธิของคนพิการก็จะกลับมา

ส่วนปัญหาการทำบัตรคนพิการที่จะต้องต่ออายุเมื่อครบกำหนด ซึ่งมีข้อเสนอว่าควรที่จะระบุลงไปในบัตรประชาชนเพื่อให้เกิดความสะดวกกับผู้พิการ นายวราวุธ กล่าวว่า เหตุผลที่บัตรต้องมีอายุ เพราะความพิการบางประเภทสามารถหายได้ เช่น พิการทางจิตใจ แต่ถ้าไม่สามารถหายเป็นปกติได้ก็ควรได้รับบัตรคนพิการตลอดชีพ เมื่อสักครู่จึงได้พูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว มีความคิดตรงกันว่าเหตุใดไม่ควบรวมบัตรคนพิการกับบัตรประชาชนไว้ด้วยกัน จึงได้ขอให้กระทรวง พม. ประสานกับกรมการปกครอง เพื่อรวมบัตรไว้ด้วยกัน โอกาสนี้จึงขอขอบคุณนายอนุทินด้วย

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ติดตามสถานการณ์ล่าสุด พบว่านายมลฑล ยังอยู่ที่วัด ยังไม่ยอมรับการทำบัตรประชาชน หรือ บัตรคนพิการใหม่ จึงไม่แน่ใจว่าเขาประสงค์อย่างไร แต่ขอขอบคุณกระทรวงมหาดไทยที่เสนอทำบัตรประชาชนใบใหม่ให้ และย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านกลาง ซึ่งบิดามารดายินยอมที่จะให้ย้ายกลับ 

สำหรับทะเบียนบ้านกลางมีผู้พิการที่ถูกนำชื่อไว้จำนวนเท่าใด นายวราวุธ กล่าวว่าไม่มีข้อมูลแต่เหตุผลที่ย้ายออกจากทะเบียนบ้านกลาง เพราะเขาหายไปนานจึงย้ายชื่อออก เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ ซึ่งหากไปอยู่ที่ไหนจะต้องมีการยืนยันตัวตน โดยมีผู้นำปกครองท้องถิ่น หรือครอบครัวยืนยันตัวตนให้ที่ภูมิลำเนาเดิม ไม่จำเป็นต้องมายืนยันตัวตนที่ส่วนกลาง 

ส่วนข้อสงสัยว่าบุคคลที่นำชื่อของ นายมลฑล ย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม ใช่คนในครอบครัวหรือไม่นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะไม่มีใครทราบว่าตลอดระยะเวลา 2 ปี เขาหายไปไหน จึงอาจเป็นเรื่องของระบบ