'ไชยา' ลั่นไม่ใช่'รมช.'พบ 'เจ๋ง ดอกจิก' ชี้ปมป้อนข้อมูลยื่นกมธ.ไร้สาระ

'ไชยา' ลั่นไม่ใช่'รมช.'พบ 'เจ๋ง ดอกจิก'  ชี้ปมป้อนข้อมูลยื่นกมธ.ไร้สาระ

"ไชยา" ลั่นไม่ใช่ ตัวละครลับ "รมช." พบ "เจ๋ง ดอกจิก" โยงรีดทรัพย์กรมข้าว ท้าเปิดวงจรปิด ส่วนปมป้อนข้อมูลยื่นกมธ.เป็นเรื่องไร้สาระ ยันปมสอบกรมฝนหลวงเคลียร์ทุกครหา

นายไชยา พรหมมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรณีเกิดเหตุเพลิงใหม้ที่กระทรวงเกษตรใกล้ห้องทำงานส่วนตัวว่า เพิ่งทราบข่าวและเพิ่งลงเครื่องมาจากต่างจังหวัดซึ่งเดิมทีตั้งใจจะเข้าไปดูที่เกิดเหตุแต่ทางกองพิสูจน์หลักฐานไม่อนุญาตให้เข้า ทั้งนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นได้รับความเสียหายที่บริเวณห้องครัว อนลามไปที่ห้องคณะทำงานซึ่งยืนยันว่าไม่มีเอกสารสำคัญเสียหาย  ไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือว่ามีการเผาทำลายหลักฐาน 

ทั้งนี้ไม่อยากให้เชื่อมโยงประเด็นการเมืองในกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนชื่อดัง และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก อดีตสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าพบตนแล้วก็มีการพูดคลุมเครือว่ามาพบตนแล้วไปที่ไหนต่อ ยืนยันว่า ตนไม่ได้คุมกรมการข้าวจึงไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงไม่มีความจำเป็นว่านายศรีสุวรรณ และนายยศวริศ จะต้องเข้าพบตน ประเด็นนี้ขอให้ตัดไปได้เลยยืนยันว่าไม่มี 

นายไชยา ยังกล่าว ถึงการตรวจสอบกรมฝนหลวงว่า ทั้งนายศรีสุวรรณและนายเจ๋งไม่ได้ยื่นเอกสารกับตน ทราบตามข่าวคือมายื่นรัฐมนตรีว่าการ โดยมีที่ปรึกษากฎหมายเป็นคนรับเรื่อง

นอกจากนี้มีอีกกรณีที่ยื่นหนังสือเป็นลานลักษณ์อักษร ซึ่งมีการลงในระบบราชการและผู้ร้องขอปกปิดเอกสาร ทราบแต่เพียงว่ามีความเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องบินเท่านั้น

ทั้งนี้ตนขอเรียนว่า ตนรับงานมาในเฉพาะการกำกับในเชิงนโยบาย ไม่มีอำนาจอนุมัติในเรื่องของงบประมาณและการบริหารบุคคล หลังรับเรื่องทั้ง2เรื่องตนได้ทำบันทึกถึงรัฐมนตรีว่าการ  เพื่อหาสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำเรื่องชี้แจงมาเป็นกระบวนการ จากนั้นตนได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยมีปลัดกระทรวงเป็นประธาน ซึ่งขณะนี้ได้มีการรายงานมาที่รัฐมนตรีว่าการ 

นายไชยา ยังปฏิเสธกรณีนายเจ๋ง ระบุว่าเคยเข้าพบครั้งหนึ่งยืนยันว่าไม่เคยมีไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้องเรียนเรื่องกรมการข้าว หรือกรมฝนหลวงไม่ได้มีมายื่นที่ตน

ย้ำว่าไม่ใช่ตนแน่นอนขอให้เอากล้องวงจรปิดมาเปิดดูได้เลย  

ส่วนกรณีที่ไปอ้างตอนยื่นที่สภาฯและมีความพยายามจะเชื่อมโยงมาที่ตนนั้นว่าเป็นคนให้ข้อมูลไม่มีความจำเป็น ตนเคยเป็นประธานคณะกรรมมาธิการติดตามงบประมาณ ซึ่งนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลประธานกมธ.คนปัจจุบัน ก็เคยรวมกรรมาธิการด้วย

แต่วันนี้เมื่อตนมาเป็นรัฐมนตรีเป็นฝ่ายบริหารเมื่อมีอำนาจหากเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องตนสามารถใช้อำนาจหน้าที่ฝ่ายบริหารได้ ไม่จำเป็นต้องอาศัยกลไกกมธ.การอ้างว่าตนเป็นผู้ให้ข้อมูลเป็นเรื่องไร้สาระ

เพราะกลไกฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเป็นคนละมิติกัน วันนี้ตนมีอำนาจรัฐมนตรีได้ทำเรื่องเสนอรัฐมนตรีว่าการไปแล้วและขณะนี้มีการรายงานเป็นรายลักษณ์อักษรไปแล้ว 

ยืนยันว่านายเจ๋งไม่ได้มาหาตนและที่ปรึกษาซึ่งไม่มีอำนาจไปสั่งการ ยอมรับว่าสมัยเป็นกมธ.นายเจ๋งได้เข้าพบเพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนหลายครั้งซึ่งก็ป็นไปตามโพรเซสที่เขายื่นหน่วยงานอื่นๆ

 "ย้ำมาโดยตลอดนับตั้งแต่มาเป็นรัฐมนตรีเรื่องหมูเถื่อนไม่ใช่เรื่องหมูๆและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องเจอกับอิทธิพล ผมพูดมาตั้งแต่ต้นวันนี้มีหมูเถื่อนแล้วก็ยังมีเนื้อเถื่อนที่มีการลักลอบนำเข้ามาต่างประเทศรวมถึงเรื่องตีนไก่ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ตนดำเนินการตามกฎหมายขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีโดยดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้วและเป็นเรื่องที่ดีเอสไอจะต้องทำความกระจ่างไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือนักการเมือง เราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย" 

ส่วนเรื่องฝนหลวง กรณีที่เกิดขึ้นยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งเรื่องนี้คณะกรรมการได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว  และสามารถชี้แจงได้เกือบทุกข้อ ซึ่งเรื่องนี้ได้รายงานให้รัฐมนตรีว่าการทราบต่อไป