'สว.สถิตย์' แนะดึงเงินเข้ากองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคมจากบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว

'สว.สถิตย์' แนะดึงเงินเข้ากองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคมจากบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว

"สว.สถิตย์" แนะดึงเงินเข้ากองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคมจากบัญชีธนาคารที่ไม่เคลื่อนไหว และเงินจากกองสลากที่ไม่มีผู้มารับรางวัล

 ที่รัฐสภา นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา  อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ได้กล่าวในระหว่างการประชุมวุฒิสภาเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคมว่า วิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นการประกอบธุรกิจที่มีเป้าหมายหลักเพื่อสังคม เป็นหลักการบูรณาการร่วมกันระหว่างความสามารถในการประกอบธุรกิจกับอุดมการณ์เพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม ตามหลักการที่เรียกว่า 3 P คือกำไร (Profit) สังคมหรือคน (People) สิ่งแวดล้อมหรือโลก (Planet) ดังนั้นความรู้เรื่องการบริหารธุรกิจจึงเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินกิจการเพื่อสังคมหรือวิสาหกิจเพื่อสังคม ซึ่งหมายถึงว่าจะต้องประกอบธุรกิจให้มีกำไร องค์กรนั้นจึงจะอยู่ยั่งยืนได้ และสามารถทำประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป

ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นจะต้องให้ความรู้ในการบริหารธุรกิจให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคม ดังนั้น ในประการแรก จึงสมควรให้มีการจัดตั้งสถาบันวิทยาการวิสาหกิจเพื่อสังคมขึ้นมาเพื่อการนี้

นายสถิตย์ กล่าวอีกว่า ในประการที่ 2 การประกอบธุรกิจเพื่อสังคมเช่นเดียวกันกับการประกอบธุรกิจอื่นๆ  จำเป็นจะต้องมีแหล่งเงินทุนโดยเห็นว่า ควรจะประกอบด้วยแหล่งเงินทุนดังต่อไปนี้

1.สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ควรจะให้ความสนับสนุนเป็นพิเศษในการให้บริการทางการเงินกับวิสาหกิจเพื่อสังคม

2.ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยควรพิจารณาศึกษาเพื่อจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์วิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อเปิดโอกาสให้ประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นี้

3.ควรสนับสนุนให้กองทุนวิสาหกิจเพื่อสังคมมีเงินทุนเพียงพอในการลงทุนกับวิสาหกิจเพื่อสังคมโดยอาจมีแหล่งที่มาของทุน 2 แหล่งคือ 1.จากเงินในบัญชีธนาคารที่ไม่เคลื่อนไหวเกิน 10 ปี และ 2. จากเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ผู้ถูกรางวัลไม่ได้ขอรับเงินภายใน 10 ปี

ประการที่ 3 ควรมีการสนับสนุนทางด้านการตลาด ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยภาครัฐควรให้โอกาสในการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคมเป็นลำดับแรก หากคุณภาพและราคาเทียบได้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัททั่วไป ส่วนภาคเอกชนก็ควรสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคมทั้งในด้านการจัดซื้อและในด้านการให้พื้นที่สำหรับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคม นอกจากนี้ ควรพิจารณาจัดทำแอพพลิเคชั่น (application) ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการซื้อขายผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจเพื่อสังคม

โดยในแอพพลิเคชั่นนี้ อาจประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ สถานที่และการเดินทางไปถึงผลิตภัณฑ์นั้น การซื้อขายผลิตภัณฑ์นั้นแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ได้ในแอปพลิเคชั่นนี้

อย่างไรก็ดี สว.สถิตย์ เป็นผู้ที่มีส่วนสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมใน 2 เรื่องด้วยกัน คือในฐานะประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ผลักดันให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม และในฐานะประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้เสนอแนะและผลักดันให้มีกฎหมายว่าด้วยวิสาหกิจเพื่อสังคม