'สส.ตรัง ปชป.' ชำแหละงบพัฒนาใต้ สุดเหลื่อมล้ำ ซัด 'นายกฯ' สืบDNA ทรท.

ที่รัฐสภา ในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์  อภิปรายถึงการจัดงบประมาณ67 ที่ตั้งประเด็นว่าพื้นที่ภาคใต้ได้รับงบประมาณด้านการพัฒนาน้อยที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นความไม่เป็นธรรมที่รัฐบาลให้กับคนพื้นที่ภาคใต้ ว่า รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ได้ฉายา เซลล์แมนสแตนด์ “ชิน” จัดสรรงบประมาณให้กับพื้นที่ภาคใต้ในสัดส่วนที่น้อยที่สุดเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ถือว่าเป็นการจัดสรรอย่างไม่เป็นธรรมกับคนภาคใต้ โดยตนมองว่าเป็นพันธุกรรมที่ถูกถ่ายทอดมาจากพรรคไทยรักไทยที่ไม่จัดงบประมาณอย่างไม่เป็นธรรมลงพื้นที่ภาคใต้เพราะมองว่าไม่ได้เลือกพรรคไทยรักไทย

น.ส.สุณัฐชา อภิปรายด้วยว่าสำหรับรายละเอียดของการจัดสรรงบประมาณด้านการพัฒนา พบว่า 14 จังหวัดภาคใต้ ได้รับเพียง 3,973 ล้านบาท ใน 209 โครงการ  จากโครงการที่ดำเนินการทั้งประเทศ รวม1,577 โครงการ แบ่งเป็น ภาคเหนือ 179 โครงการ วงเงิน 3,162 ล้านบาท, อีสาน จำนวน 537 โครงการ ได้รับงบ9,794 ล้านบาท ภาคตะวันออก ได้ 121โครงการ วงเงิน 2,232 ล้านบาท, ภาคตะวันตก ได้ 101โครงการ วงเงิน 1,847 ล้านบาท, ภาคกลาง ได้ 391โครงการ วงเงิน 7,345 ล้านบาท แม้ตัวเลขดังกล่าวจะพบว่าภาคตะวันตกได้โครงการและงบน้อยสุด แต่เมื่อคิดเฉลี่ยต่อหัวประชากรแล้วพบว่า ภาคใต้มีงบพัฒนาเฉลี่ยต่อหัวเพียง 421 บาทเท่านั้น เพราะพื้นที่ภาคใต้มีประชากรมากกว่าภาคตะวันตก 3 เท่า

น.ส.สุณัฐชา อภิปรายด้วยว่า ทั้งนี้พบหลายโครงการที่หายไป เช่น  แผนงานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์  เช่น มอเตอร์เวย์สายใต้, รถไฟทางคู่สายใต้ เส้นทาง ชุมพร-นราธิวาส, โครงการสะพานเชื่อม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช - อ.เกาะสมุย  จ.สุราษฎร์ธานี, โครงการก่อสร้างสนามบิน ในจ.พัทลุง ที่ไม่พบงบศึกษาหรือสำรวจ, โครงการก่อสร้างถนนสี่แลน สาย 4046 เชื่อม จ.กระบี่, โครงการแผนพัฒนาจ.ภูเก็ต ด้วยรถไฟฟ้าและสนามบินอันดามัน ที่ไม่พบรายละเอียด แม้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง จะลงพื้นที่เพื่อขายฝันแต่ตนมองว่าเป็นฝันระยะไกล

น.ส.สุณัฐชา อภิปรายทวงถามถึงงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ด้วย อย่างไรก็ดีจากตัวอย่างในโครงการภาคใต้ที่ถูกทำให้หายไป จากข้อมูลค่าเฉลี่ยต่อหัวที่คนใต้ได้รับ งบพัฒนาน้อยที่สุด ส่อเค้าว่างบประมาณปีแรกของนายเศรษฐา ไม่ต่างจากยุครัฐบาลนายใหญ่เพื่อไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน นายกฯ อาจจะแก้ตัวว่าเป็นผู้นำคนละคนกัน แต่การจัดทำงบประมาณดังกล่าว มั่นใจว่าพฤติกรรมทอดทิ้งคนใต้ ถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมมายังนายเศรษฐา ผ่านการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบฯ67 ซึ่งตนไม่สามารถรับหลักการจนกกว่าจะ ทบทวนให้รอบคอบ คืนความเป็นธรรมให้คนภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของน.ส.สุณัฐชา ซึ่งจะกล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ และได้นำภาพการฉลองปีใหม่ ของนายเศรษฐา ซึ่งสวมชุดสีแดงมาประกบ ทำให้นายพิเชษฐ์ ขอให้ยุติการอภิปรายและขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพดังกล่าวว่าได้ขออนุญาตหรือรับอนุญาตแล้ววหรือไม่

ทำให้เกิดเหตุประท้วงเรื่องการควบคุมการทำหน้าที่ของประธานในที่ประชุม ว่าไม่เป็นกลาง ทำให้นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ทราบว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบและยังไม่แจ้งตน หากเจ้าหน้าที่ดำเนินการแล้วยินดีและขอให้ผู้อภิปรายยได้อภิปรายต่อไป อย่างไรก็ดี น.ส.สุณัฐชา กล่าวตอบโต้ว่า  “คิดว่ารูปที่นายกฯ สวมเสื้อสีแดง และปาร์ตี้ที่ทำเนียบรัฐบาลไม่มีอะไรเสียหายหรืออาย เพราะการเป็นนักโทษเทวดาอยู่บนชั้น 14 น่าอายกว่ามาก” ทำให้สส.พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงในประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้การประท้วงยังคงมีต่อเนื่องไปจนกว่า น.ส.สุณัฐชาจะอภิปรายจบ.