‘บูรพา-บ้านป่า’ ไม่แพ้ ‘ลุงป้อม’ กระชับอำนาจเพื่อน้อง

‘บูรพา-บ้านป่า’ ไม่แพ้ ‘ลุงป้อม’ กระชับอำนาจเพื่อน้อง

  การที่ "ลุงป้อม" ขยับกระชับอำนาจในพรรค พปชร.ไม่ได้วาดหวังจะนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า เพียงแต่ต้องการเป็นกองหนุนให้น้องชาย "ป.ป๊อด" ได้ยืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะผู้นำคนใหม่ เหนืออื่นใดต้องการลงจากเวทีอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ใช่วางมืออย่างคนไร้บารมี

 ภาพข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เดินเข้าที่ทำการพรรค ย่านถนนรัชดา นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมคณะ กรรมการบริหารพรรค และ สส. เมื่อเย็นวันอังคารที่ 12 ธ.ค.2566 ย่อมไม่ใช่วิถีปกติแน่

 เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร เก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านป่ารอยต่อฯ มีกระแสข่าวมากมาย บ้างก็ว่า ลุงป้อมเข้าห้องพระทุกวัน ไม่พบกับใครเลยบ้างก็ว่าไม่มีนักการเมืองแห่เข้าไปพบเหมือนในอดีต

 อย่างไรก็ตาม สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข เป็นคนหนึ่งที่เข้าบ้านป่ารอยต่อเกือบทุกวัน ยืนยันว่า ลุงป้อมยังมีกำลังใจดี และไม่คิดวางมือทางการเมือง

 แหล่งข่าวในบ้านป่ารอยต่อเปิดเผยว่า ลุงป้อมได้สั่งทีมงานชุดเดิมเข้ามาประจำการ เพื่อจัดทัพใหม่สนับสนุน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ให้เร่งสร้างผลงาน เพราะที่ผ่านมา ป.ป๊อดค่อนข้างเงียบไปหน่อย

 ขณะที่ สส.อีสานคนหนึ่งยืนยันว่า ลุงป๊อด-พล.ต.อ.พัชรวาท ได้เรียก สส.หน้าใหม่ไปรายงานตัว และให้การดูแลอย่างดี ไม่มีการทอดทิ้ง สส.ตามที่รายงานข่าวในสื่อบางสำนัก

 นัยว่า ลุงป้อมต้องลุกขึ้นมาจัดทัพใหม่ เพราะมีนักวิชาการบางคนไปพูดว่า พล.อ.ประวิตร อยู่เป็นสัญลักษณ์ของพรรค พปชร.เท่านั้น

 มิหนำซ้ำนักวิชาการรายนั้น ยังไปบอกว่า เจ้าของพรรคตัวจริงคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร.

 สส.พลังประชารัฐ มีทั้งหมด 40 คน กว่าครึ่งหนึ่งเป็น สส.หน้าใหม่ ที่กระจายตัวอยู่ในทุกภาค ส่วนอดีต สส.สมัยที่แล้ว ส่วนใหญ่สอบตก

 เอาเข้าจริง กลุ่มผู้กองธรรมนัส ก็มี สส.ที่ใกล้ชิดชนิดไปไหนไปด้วยกันประมาณ 6 คน คือ อนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา จีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา  นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่  ปกรณ์ จีนาคำ สส.แม่ฮ่องสอน ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก 

 หากคลี่รายชื่อ สส.หน้าใหม่ ไล่มาตั้งแต่ภาคอีสาน ก็จะเห็นความเคลื่อนไหวชัดเจน รัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด ภรรยาเอกภาพ พลซื่อ อดีต สส.ร้อยเอ็ด ส่งลูกชายไปทำงานกับ ร.อ.ธรรมนัส

  ส่วน กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ  อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ วิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร และชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร ไปหาทั้ง ป.ป๊อดและผู้กองธรรมนัส 
ยกเว้น จำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ และ กระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย ที่เป็นสายตรงบ้านป่ารอยต่อ

  สส.ใต้ป้ายแดง อย่าง คอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี ฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา 
ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา และสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เป็นสายตรง ป.ป๊อด

  ยกเว้นกลุ่ม สส.นราธิวาส สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส ที่ใกล้ชิดกับผู้กองธรรมนัส และยังเคารพรักลุงป้อม-ลุงป๊อด

  ทวี สุระบาล สส.ตรัง ถือว่าเป็นสายตรงบ้านใหญ่ โกหนอ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ พรรค ปชป. แต่มาสวมเสื้อ พปชร.

 สส.ภาคกลาง ที่มาจากบ้านใหญ่อย่าง องอาจ วงษ์ประยูร สส.สระบุรี  อรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.สิงห์บุรี และ สะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี ก็ยังขึ้นตรงกับลุงป้อม

 ไม่นับซุ้มบ้านใหญ่ 2-3 บ้าน ก็ยังแสดงตัวว่า ยืนข้างลุงป้อม-ลุงป้อม สังเกตได้จากหน้ากฐินที่ผ่านมา ก็มีเพียง สันติ พร้อมพัฒน์ ตรีนุช เทียนทอง และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่ร่วมขบวนไปทำบุญกับลุงป้อม

  ซุ้มเมืองมะขามหวาน มี สส.เพชรบูรณ์ 6 คนคือ พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์  จักรัตน์ พั้วช่วย บุญชัย กิตติธาราทรัพย์  วรโชติ สุคนธ์ขจร  วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ และอัคร ทองใจสด 

  ซุ้มเมืองชากังราว ของ วราเทพ รัตนากร มี สส.กำแพงเพชร 3 คนคือ เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์  อนันต์ ผลอำนวย และปริญญา ฤกษ์หร่าย 

  ซุ้มเทียนทอง สองแม่ลูก สส.สระแก้ว อย่างขวัญเรือน เทียนทอง และตรีนุช เทียนทอง ก็ยังเกรงใจลุงป้อมอยู่ แม้จะมี สรวงศ์ เทียนทอง ลูกชายป๋าเหนาะ ทาบทามให้กลับเพื่อไทย

  ส่วนซุ้มมังกรราชัน ของกำนันตุ้ย วิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี มี สส.ราชบุรี 3 คนอยู่ในมือคือ บุญยิ่ง นิติกาญจนา จตุพร กมลพันธ์ทิพย์ และชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ก็ยังวิ่งหาทั้งลุงป้อม และผู้กองธรรมนัส

  เฉพาะปรากฏการณ์เรื่องหมูๆ ยิ่งทำให้กำนันตุ้ย ต้องพึ่งพาบารมีผู้กองเมืองพะเยามากเป็นพิเศษ

  การที่ลุงป้อมขยับกระชับอำนาจในพรรค พปชร.ไม่ได้วาดหวังจะนำทัพสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า เพียงแต่ต้องการเป็นกองหนุนให้น้องชาย ป.ป๊อด ได้ยืนขึ้นอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะผู้นำคนใหม่

  เหนืออื่นใด พล.อ.ประวิตร ต้องการลงจากเวทีอย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ใช่วางมืออย่างคนไร้บารมี และคงอยากส่งสัญญาณถึง "คนชั้น 14" เพื่อให้มีการพูดคุยกันในวันข้างหน้า