'ปดิพัทธ์' ดีเดย์ 1ปีสภาฯ เตรียมเปิดแฟ้มผลงาน สส. รวมทุกสถิติรายงานต่อปชช.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ที่มี นายณัฐพงษ์​ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานกมธ. ได้เชิญ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ชี้แจงต่อกรณีการศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ 2 พ.ย. ทั้งนี้ในการประชุมช่วงดังกล่าวพบว่านายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะรองประธานกมธ.คนที่สอง ได้ทำหน้าที่แทน เนื่องจากนายณัฐพงษ์ เป็น 1 ในผู้ที่ร่วมคณะเดินทางไปดูงานกับนายปดิพัทธ์ด้วย

ทั้งนี้นายปดิพัทธ์ ย้ำถึงการเดินทางศึกษาดูงานดังกล่าวว่าเป็นประโยชน์และนำผลของการศึกษาดูงานปรับใช้กับรัฐสภา อาทิ ปรับปรุงระบบติดตามร่างกฎหมายบนเว็นไปซต์ของรัฐสภาพร้อมกับติดตามสถานะของร่างกฎหมายทุกฉบับที่เข้าสู่สภาฯ, นำเสนอประวัติของ สส. ซึ่งรวมถึงสถิติการเข้าประชุม การลงมติ ร่างพ.ร.บ. ตั้งกระทู้ถาม ซึ่งทำให้ประชาชนสามารถติดตามสส.ในพื้นที่รวมถึงพรรคการเมืองด้วย ทั้งนี้การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวจะเป็นไปตามการยินยอมของ สส. , ร่วมมือกับองคืกรส่งเสริมค;ามเท่าเทียมทางเพศ โดยส่งเสริมบทบาท สส.หญิงที่มีสัดส่วนมากถึง 30% , เริ่มโครงการศูนย์การเรียนรู้รัฐสภาที่เข้าถึงง่าย โดยจะย้ายบางส่วนของห้องสมุดรัฐสภา ที่ตั้งอยู่ชั้น9 มาให้บริการประชาชนที่บริเวณชั้น 1  สำหรับงบประมาณที่ใช้ดำเนินการตั้งไว้ ที่ 1.4 ล้านบาท แต่ใช้จริง จำนวน 9.2 แสนบาท ที่เหลือต้องส่งคืนคลัง

นายปดิพัทธ์ ชี้แจงอีกว่าในประเด็นการเดินทางไปต่างประเทศ ยอมรับว่าได้ใช้สายบินที่กำหนดไว้ตามระเบียบ และไม่สามารถใช้สายการบินโลว์คอสได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า ในกรณีที่ใช้สายการบินตามระเบียบที่กำหนด จะง่ายต่อการประสานงานต่อการเลื่อนไฟล์ทบินหรือวันเดินทาง แต่หากเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ จะไม่สามาารถทำได้ ดังนั้นในการเดินทางจึงไม่สามารถประหยัดได้ อย่างไรก็ดีตนคิดว่าในการเดินทางในภูมิภาคอาเซียนจะใช้สายการบินต้นทุนต่ำ หรือ รถไฟเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการซักถามของกมธ. ถึงการเผยแพร่สถิติของสส.ในการประชุมสภาฯ ที่จะมีความชัดเจนเมื่อใด เพราะขณะนี้ในส่วนของประวัติของ สส. มีเพียงภาพและชื่อนามสกุล เท่านั้น นายปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า ในกรณีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับข้อมูลของข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานบริหารงานกลางอยู่ระหว่างพิจารณา อีกทั้งในระบบข้อมูลของสภาฯ ยังไม่ได้ไม่ได้สังคายนาข้อมูล ทั้งนี้เรื่องกรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ จึงตั้งคณะกรรมการไอซีที ทำงานร่วมกันกับ สภาฯและวุฒิสภา จะพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างของรัฐสภา ครั้งแรกในวันที่ 7 พ.ย. ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 67 เบื้องต้นตนคาดว่าการแสดงแฟ้มผลงานของสส. นั้นในช่วงปิดสมัยประชุมหน้า หรือ  1 สมัย สส.จะได้รับแฟ้มผลงานดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการชี้แจงนายปดิพัทธ์ ได้แจกแจงการใช้งบประมาณศึกษาดูงานที่สิงค์โปรว่า มีผู้ร่วมคณะเดินทางรวม 12 คน ดูงาน 5 วัน 4 คืน เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวันอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทต่อคนต่อวัน ซึ่งรวมค่าที่พัก และตั๋วเดินทางแล้ว

ทำให้ นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อที่ประชุมโดยฝากประเด็นไปยังสำนักงบประมาณที่เข้าชี้แจงว่า การศึกษาดูงานของนายปดิพัทธ์ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มที่จะจ่าย อย่างไรก็ดีในข้อสังเกตของระเบียบการเดินทางนั้นอยากให้พิจารณาแก้ไขปัญหา เพราะสถานะของการบินไทยในปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว และมองว่าควรเปิดโอกาสให้ใช้สายการบินอื่นได้ หากราคามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้เกิดความประหยัด

ทั้งนี้นายปดิพัทธ์ กล่าวด้วยว่า หากรัฐสภามีกฎของตัวเองไม่อิงกับข้าราชการอื่นๆ เพื่อให้ สส. เลือกเดินทางด้วยความประหยัดจะก้าวหน้าและริเริ่มได้ ทั้งนี้มีปัญหาไม่อยู่ในระบบ แต่สส.อยากใช้เกินสิทธิ์ อยากเพิ่มสิทธิ์ นั่งที่นั่งชั้นหนึ่ง (เฟิร์สคลาส) หรือพาภรรยานั่งเฟิร์สคลาสด้วยหรือลูกน้องนั่งเฟิร์สคลาสด้วย

อย่างไรก็ดีตัวแทนของสำนักงบประมาณฯ ได้ชี้แจงว่าในระเบียบการเดินทางต้องหารือกับกระทรวงการคลังด้วย ทำให้นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ในการเดินทางไปนิวยอร์คของ นายกฯ ได้สร้างมาตรฐานแล้ว ว่าไม่ได้นั่งเฟิร์สคลาส แต่ได้นั่งร่วมกับคณะไปด้วยกัน ดังนั้นตนจะทำเรื่องประสานไปยังนายกฯ และกระทรวงการคลัง.