หมาก ‘ก้าวไกล’ ผ่าทางตัน แก้เดดล็อก ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’

หมาก ‘ก้าวไกล’ ผ่าทางตัน แก้เดดล็อก ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’

แต่หลังฉาก ย่อมรู้กันดีว่าคนกุมอำนาจภายในพรรคก้าวไกล ‘ตัวจริง’ หรือที่บางคนเรียกว่า ‘โปลิตบูโร’ นั้น ขึ้นอยู่กับผู้นำทางความคิด 3 คน คือ ‘กลุ่มเพื่อนเอก’ หรือ ‘เพื่อนรัก 3 T’ ได้แก่ T ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ T ต๋อม-ชัยธวัช ตุลาธน T ติ่ง-ศรายุทธ ใจหลัก

ถึงคราวที่ ‘พรรคก้าวไกล’ จำต้องหา ‘ตัวแสดงแทน’ มานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่

เพราะกุนซือ-คีย์แมนสีส้ม ประเมินตรงกันแล้วว่า เกมการเมืองเวลานี้ จำเป็นต้องมี ‘ผู้นำฝ่ายค้าน’ ในสภาฯ เพื่อไว้ตรวจสอบถ่วงดุล ‘รัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว’ โดยด่วน

เนื่องจากอีกไม่นาน ‘รัฐบาลเศรษฐา’ จะเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ประจำปี 2567 เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ หากปล่อยให้เก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านยังว่างอยู่แบบนี้ อาจไม่ทันท่วงที

ในส่วนคดีหุ้นสื่อ itv ของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น แม้จะถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย แต่แนวโน้มค่อนข้างสูงว่าจะไป ‘ทางลบ’ ไม่เป็นผลดีกับพรรค เพราะฉะนั้นจึงยอม ‘ตัดไฟแต่ต้นลม’ เพื่อเลือกหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่แทน

ขณะที่เงื่อนปมปัญหาเก้าอี้ ‘รองประธานสภาฯ คนที่ 2’ อย่าง ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ มีแนวโน้มสูงตามกระแสข่าว คือ จะย้ายไปสังกัด ‘พรรคเป็นธรรม’ เพื่อแก้ปัญหา ‘เดดล็อกทางการเมือง’

เนื่องจากตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดไว้ชัดคือ ผู้นำฝ่ายค้าน ต้องเป็น สส. ที่มาจากพรรคที่มีจำนวน สส.มากสุดในสภาฯ ที่ไม่ได้เป็นนายกฯ รัฐมนตรี ประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ

ดังนั้นการที่ ‘พิธา’ ลาออก เป็นเพียงขยักแรก ต้องรอท่าทีจาก ‘ปดิพัทธ์ สันติภาดา’ เป็นขยักต่อไป การขับเคลื่อนเกมชิงเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านจึงเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น

นอกจากเรื่องผู้นำฝ่ายค้านแล้ว บรรดา ‘แกนนำพรรคแถว 2’ ที่ได้เข้าสภาฯ กำลังมีบทบาทค่อนข้างสูงในกระแสสังคม เช่น พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ‘ชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร’ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการคลัง ‘อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล’ กูรูด้านเศรษฐกิจของพรรค เป็นต้น

ขณะที่แกนนำแถวแรกที่ยังหลงเหลืออยู่ อาจถูกปรับให้โดนแสงสปอร์ตไลท์ทางการเมืองมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น ‘ศิริกัญญา ตันสกุล’ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ‘รังสิมันต์ โรม’ หัวหมู่ทะลวงฟันของพรรค ‘ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์’ สส.กทม. เป็นต้น

ดังนั้น ‘พิธา’ ลาออก เหมือน ‘ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว’ คือ แก้ปมปัญหาผู้นำฝ่ายค้านไปในตัว และเปิดช่องส่องแสงแก่บรรดา สส.รุ่นใหม่ ในพรรคด้วย

ประการต่อมาคือ ใครจะก้าวขึ้นมาสู่หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ ฉากหน้าการเมือง เป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะต้องเป็นคนเลือก โดยที่มาของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คือผ่านการโหวตของสมาชิกพรรคเบื้องต้นเสียก่อน

แต่หลังฉาก ย่อมรู้กันดีว่าคนกุมอำนาจภายในพรรค ‘ตัวจริง’ หรือที่บางคนเรียกว่า ‘โปลิตบูโร’ นั้น ขึ้นอยู่กับผู้นำทางความคิด 3 คน คือ ‘กลุ่มเพื่อนเอก’ หรือ ‘เพื่อนรัก 3 T’ ได้แก่ T ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ T ต๋อม-ชัยธวัช ตุลาธน T ติ่ง-ศรายุทธ ใจหลัก

ดังนั้นคาดกันว่า‘ต๋อม ชัยธวัช’ เลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน ซึ่งถูกเรียกขานว่าเป็น ‘ขงเบ้งสีส้ม’ มีแนวโน้มสูงที่จะรับไม้ต่อ ก้าวขึ้นสู่หัวหน้าพรรคก้าวไกล

ส่วน ‘ติ่ง ศรายุทธ’ ปัจจุบันเป็น ผอ.พรรคก้าวไกล คาดคงถูกวางตัวไว้หลังฉากก่อน หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง ต้องทำ ‘พรรคส้มภาค 3’ อาจดึงมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ในอนาคต

ด้วยความที่ ‘ต๋อม-ติ่ง’ ชอบทำงานหลังฉาก มีลักษณะเป็นมือประสานสิบทิศ ไม่ชอบอยู่ในแสงสปอร์ตไลท์ทางการเมือง ‘กลุ่มเพื่อนเอก’ อาจวางหมากใหม่ดัน ‘เดอะไหม’ ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแทนก็เป็นไปได้ เหมือนที่เคยทำกับ ‘ทิม พิธา’ มาแล้วในตอนเทคโอเวอร์ตั้งพรรคก้าวไกล

ดังนั้นหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ คงไม่อาจฟันธงได้ชัดว่าจะเป็นใคร แต่น่าจะหนีไม่พ้น 2 คนนี้คือ ‘ต๋อม ชัยธวัช-เดอะไหม ศิริกัญญา’

ปลดล็อกผ่าทางตันการเมือง ได้ทั้งเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน และมีคนใกล้ชิดที่นั่งรองประธานสภาฯ คอยคุมเกม ซ่อนเล็บรอวันกลับมาผงาด เอาคืน ‘พรรคสีแดง’ ที่ทำไว้อย่างเจ็บแสบ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า