จับตา "วุฒิสภา" ลงมติเลือก "กกต." คนใหม่ หลังมี "สว."ท้วงปมอ่อนประสบการณ์

จับตา "วุฒิสภา" ลงมติเลือก "กกต." คนใหม่ หลังมี "สว."ท้วงปมอ่อนประสบการณ์

"วุฒิสภา" เข้าสู่วาระพิจารณา เลือก "กกต." คนใหม่ หลัง "ชาย นครชัย" อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมถูกเสนอชื่อ มี "สว." ท้วงปมกก.สรรหาไม่หลากหลาย- ได้คนอ่อนประสบการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานถีงการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้เข้าสู่วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบ นายชาย นครชัย อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  ในฐานะผู้ได้รับเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  แทนนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย กกต. ที่พ้นตำแหน่ง เนื่องจากอายุครบ 70 ปี เมื่อ 30 ธันวาคม 2565

 

จับตา \"วุฒิสภา\" ลงมติเลือก \"กกต.\" คนใหม่ หลังมี \"สว.\"ท้วงปมอ่อนประสบการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนที่ที่ประชุมจะเข้าสู่การประชุมลับเพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของนายชาย นั้น พบว่ามี สว.แสดงความเห็นโดยแคลงใจต่อการเลือกนายชาย ตามกระบวนการสรรหาที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน

โดย พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม สว. อภิปรายไม่รับรองรายงานในส่วนของกรณีที่คณะกรรมการสรรหา กกต.  ซึ่งตามพ.ร.ป.กกต.ระบุว่า 3 องค์กรสำคัญ ไม่ส่งบุคคลเข้าเป็นกรรมการสรรหา คือ ศาลรัฐธรรมมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดินและ คณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ทำให้กรรมการสรรหา มีอยู่ 6 คนจากจำนวนที่กฎหมายกำหนดให้มี 9 คนโดยกรรมการสรรหาสรรหาได้ตั้งกติกาให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่ไม่ใช่ กกต. ต้องแต่งตั้งและเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมการสรรรหาภายใน 20 วันนับจากวันรับแจ้งจากเลขาธิการวุฒิสภา

ขณะที่นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน สว. อภิปรายว่า ตนสงสัยในประสบการณ์การทำงานของบุคคลที่ถูกเสนอชื่อ คือ นายชาย ว่าจะมีความเหมาะสมต่อการทำหน้าที่ กกต.​ที่มีบทบาทจัดการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม และรับรอง สส. ที่มีหน้าที่บริหารบ้านเมืองในอนาคตหรือไม่ เนื่องจากนายชายมีประสบการณ์เพียงด้านเดียวคือในกระทรวงวัฒนธรรม  ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 215 กำหนดให้ กกต. ต้องปฏิบัติหน้าที่เที่ยงธรรมและบริสุทธิ์ ยุติธรรม และอิสระ หากไม่ได้สัมผัสหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยตรง จะทำหน้าที่สมบูรณ์หรือไม่

 

นายเฉลิมชัย อภิปรายด้วยว่าสำหรับการลงคะแนนเลือกบุคคลที่เข้ารับการสรรหา สำหรับ ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกกต. ลงมติเลือก 2 ครั้ง โดยครั้งแรก นายชาย ได้รับคะแนน เพียง 3 คะแนนจากกรรมการสรรหา ที่ประกอบด้วย   ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ, กรรมการที่เสนอชื่อจากกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและ กรรมการจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ขณะที่คู่แข่งคือ น.ส.ลัดดาวัลย์ จันติวิทยาพิทักษ์  อดีตเลขาธิการคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ได้3คะแนน จาก ประธานศาลฎีกา, ประธานศาลปกครองสูงสุด และ ประธานสภา เท่ากับแต่เมื่อลงคะแนนรอบ2 พบว่านายชาย ได้คะแนนเพิ่มอีก 1 คะแนน เป็น 4 คะแนน โดยประธานสภาฯ เปลี่ยนใจลงคะแนนให้นายชาย จึงทำให้เป็นผู้รับเลือก

 

 

“ผมมองว่ากรรมการสรรหา ที่ปกติต้องมี 9 คน แต่เมื่อเหลือ 6 คนการพิจารณาไม่หลากหลาย โดยเฉพาะองค์กรอิสระที่ไม่ส่งคนเป็นกรรมการสรรหา ทั้ง ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดินและ ป.ป.ช. ถือว่าองค์กรเหล่านั้นขาดความรับผิดชอบ” นายเฉลิมชัย อภิปราย

 

จากกนั้น เมื่อเวลา 13.10 น.ได้เข้าสู่การประชุมลับ.