‘ชลน่าน’เผย ‘เลขาฯก้าวไกล’พยายามหาเสียง ส.ว.หนุน‘พิธา’ ยังไม่ได้บอกจำนวน

‘ชลน่าน’เผย ‘เลขาฯก้าวไกล’พยายามหาเสียง ส.ว.หนุน‘พิธา’ ยังไม่ได้บอกจำนวน

‘ชลน่าน’เผย ‘เลขาฯก้าวไกล’พยายามหาเสียง ส.ว.หนุน‘พิธา’ ยังไม่ได้บอกจำนวนว่าเท่าไหร่ แต่อยากให้ตั้งแค่รอบแรก -ไม่ห่วงม็อบกดดันโหวตนายกฯชี้เป็นสิทธิตามกฎหมาย

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยหลังการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล  ว่า ในที่ประชุมได้มีการสอบถามเรื่องเสียงสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี  จาก ส.ว. โดยนายชัยธวัช ตุลาธน  เลขาธิการพรรคก้าวไกล ชี้ว่าอยู่บนพื้นฐานของความพยายามหาเสียงให้มากที่สุดแต่ไม่ได้บอกจำนวนว่าเท่าไหร่ 

เมื่อถามว่าวันนี้ยังได้เสียงส.ว.ไม่ครบ ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายชัยธวัชระบุว่ากำลังพยายาม  ทั้งนี้หากวันแรก นายพิธาไม่ผ่านการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ห่วงสถานการณ์ชุมนุมหรือไม่  นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่าที่ประชุมไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุย แต่มีเรื่องแจ้งให้ทราบว่าวันที่ 13 กรกฎาคมนี้  ทางรัฐสภาจะเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ โดยอาจจะมีการปิดถนนทหารให้ประชาชนอยู่บริเวณนั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนเข้ามาภายในพื้นที่อาคารรัฐสภา
 

ส่วนการให้มวลชนเข้ามาสังเกตการณ์การโหวตเลือกนายกฯ จะเป็นการกดดันส.ว. และส.ส. ที่ยังไม่ตัดสินใจ ได้มีการ พูดคุยกับพรรคก้าวไกลเพื่อขอความร่วมมือมวลชนให้ติดตามผ่านทางสื่อต่างๆหรือไม่  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นเพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย เป็นไปโดยสิทธิเสรีภาพว่าไม่จำนวนคนจะมาเท่าไหร่ หากเป็นไปตามกรอบของกฎหมายก็สามารถทำได้ไม่ถือว่าเป็นการกดดัน
 

ขณะเดียวกันหากไม่สามารถโหวตนายพิธาได้ตั้งแต่รอบแรก จะมีการปรับแผนหรือไม่  นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน ขอยึดข้อเท็จจริงให้ปรากฏก่อน และยังไม่มีการพูดคุยกันว่าจะต้องเลือกทั้งหมดกี่รอบถึงจะเปลี่ยนเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาเป็นพรรคเพื่อไทย เพราะเหตุการณ์นั้นยังไม่เกิดขึ้น จึงขอยึดเหตุการณ์วันที่ 13 กรกฎาคมนี้เป็นหลัก แต่อยากให้ผ่านตั้งแต่รอบแรก  เพราะมติ 8 พรรคร่วมฯ 312 เสียงจะต้องโหวตให้นายพิธาทั้งหมด  โดยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งก่อนลงมติและขณะลงมติ 

นพ.ชลน่าน  ยอมรับว่าในที่ประชุมมีการหารือกันวิธีการโหวตนายกรัฐมนตรีโดยให้ ส.ส. 500 คนโหวตก่อน และให้ 250 ส.ว.โหวตต่อ แต่เห็นว่าหากเสนอเป็นญัตติให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเรื่องนี้  ที่ประชุมเห็นว่าอาจจะทำให้บรรยากาศของการประชุมในวันดังกล่าวสร้างบรรยากาศที่ติดขัด สร้างความระแวงสงสัย จึงสรุปว่าอะไรที่จะทำให้บรรยากาศที่ประชุมให้ดีเราจะหลีกเลี่ยง  และยืนยันที่จะทำตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในการโหวตโดยให้สมาชิกรัฐสภาโหวตเรียงตามอักษร