27 มิ.ย. 'เพื่อไทย' เคาะสรุป ก่อนคุย 'ก้าวไกล' จบปัญหาเก้าอี้ประธานสภาฯ

27 มิ.ย. 'เพื่อไทย' เคาะสรุป ก่อนคุย 'ก้าวไกล' จบปัญหาเก้าอี้ประธานสภาฯ

'ภูมิธรรม' มั่นใจ 27 มิ.ย. 'เพื่อไทย' ได้ข้อสรุปก่อนคุย 'ก้าวไกล' ไร้ปัญหาศึกแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ไม่กังวลถ้าซีกรัฐบาลเดิมส่งชื่อชิงประมุขนิติบัญญัติ

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาฯ หลัง ส.ส. พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวควรอยู่กับพรรคเพื่อไทย ว่า วันที่ 27 มิ.ย.นี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคในช่วงบ่ายเพื่อรายงานข้อสรุปการเลือกตั้ง 2566 ที่ผ่านมาอย่างเป็นทางการ รวมถึงรายงานไทม์ไลน์เปิดสภาฯ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการประสานงานร่วมรัฐบาลกับ 8 พรรค และตำแหน่งประธานสภาฯ ที่กรรมการบริหารพรรคได้มอบหมายให้ผู้แทนไปดำเนินการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยังไม่มีข้อยุติ ก็จะได้รับฟังแนวทางที่กรรมการบริหารพรรคจะให้ดำเนินการต่อ จากนั้นจะมีการประชุม ส.ส. ก็จะนัดหมายการไปร่วมรัฐพิธี รวมถึงรายงานสิ่งที่กรรมการบริหารได้หารือกันต่อที่ประชุม ส.ส. 

เมื่อถามว่าจะมีการลงมติเกี่ยวกับประธานสภาฯ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า แล้วแต่ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารและที่ประชุม ส.ส.ว่าจะมีความเห็นอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าการประชุมน่าจะได้ข้อยุติที่ไปคุยกับพรรคก้าวไกล ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ที่ได้นัดหมายพูดคุยกันเรื่องนี้ที่พรรคเพื่อไทย และหลังจากนั้นวันที่ 29 มิถุนายน หัวหน้าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค จะมีการประชุมกัน ที่พรรคก้าวไกล

เมื่อถามว่า วันที่ 28 มิ.ย.จะได้ข้อสรุปกับพรรคก้าวไกลเลยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการหารือ เชื่อว่าน่าจะเป็นทิศทางที่อำนวยประโชน์ต่อการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามว่าถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ เดิมจะเสนอ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภาฯ นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายสุชาติ แต่ไม่เชื่อว่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะอยู่กันคนละพรรค เมื่อเจอนายสุชาติ จะสอบถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน 

เมื่อถามว่าตอนนี้เหมือนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม มีแนวคิดส่งคนของซีกเขามาแข่งประธานสภาฯ มองอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เขามีสิทธิเสนอคนมาเป็นประธานสภาฯ แต่เท่าที่ติดตามข่าวมีแต่ความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่เห็นท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอื่นๆ แต่ไม่กังวลว่าจะมีปัญหาอะไร เพราะแม้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมรวมตัวกันก็มีเสียงไม่เกิน 180 กว่าเสียง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯซึ่งตนคิดว่าตำแหน่งดังกล่าวจะอยู่กับซีก 8 พรรคที่ร่วมตั้งรัฐบาลอยู่ในขณะนี้