"มัลลิกา" ดักคอสว. ขอต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ แล้ว"สิ้นสุดทางเลื่อน" ที่ศาล

"มัลลิกา" ดักคอสว. ขอต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ แล้ว"สิ้นสุดทางเลื่อน" ที่ศาล

"มัลลิกา" ดักคอ สว.หยุดเสนอช่องทางอื่น แต่ขอทุกฝ่ายต่างทำหน้าที่และให้ยุติที่ข้อกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แล้วไป"สิ้นสุดทางเลื่อน" ที่ศาล เชื่อปมแก้ม.112พรรคก้าวไกลสัญญาณโดดเดี่ยว

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ประธานมูลนิธิมัลลิกาเพื่อประชาชน และอดีตกรรมการบริหารและส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต่อกรณีข้อเสนอทางออกของประเทศไทยในหลายมิตินั้นเชื่อว่าจะนำไปสู่ความยุ่งยากและสร้างเงื่อนไขต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด

ดังนั้นหนทางที่ดีที่สุดคือขอให้ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ กกต.รับรอง คณะกรรมการการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตนเองตามรัฐธรรมนูญให้สมบูรณ์เสร็จสิ้นและยึดถือเอากติกาทั้งในส่วนของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งและตัวบทกฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้วินิจฉัยจนสิ้นสุดทางเลื่อน จะเป็นเหตุเป็นผลสำหรับการยอมรับได้ของทุกฝ่ายแต่หากไปหาหนทางอื่นนอกเหนือจากที่กติกาและกฎหมายกำหนดจะกลายเป็นผูกเงื่อนไขเพิ่มขึ้นจนหาทางออกไม่ได้

"อย่างกรณีของหัวหน้าพรรคก้าวไกลที่คุณสมบัติจะได้หรือไม่นั้นสมควรอย่างยิ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้เร่งดำเนินการในส่วนหน้าที่ของตนเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุดแล้วส่งเรื่องไปสู่การพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญต่อไป " 

นางมัลลิกา กล่าวด้วยว่า กรณีการถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นประเด็นที่สมาชิกวุฒิสภามีความกังวลที่สุด เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภามีหน้าที่โดยตรงตามรัฐธรรมนูญในการกลั่นกรองบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งซึ่งก็ไม่ใช่แค่เฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ยังมีตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นด้วยดังนั้นความกังวลของสมาชิกวุฒิสภานั้นทุกฝ่ายทราบดี

อย่างไรก็ตามกรณีนายพิธานั้นบัดนี้เหลือเพียงเงื่อนไขเดียวคือเรื่องคุณสมบัติ เพราะเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 112 ไม่ได้อยู่ใน MOU ของการจัดตั้งรัฐบาลแปลว่าไม่ผลักดันแก้หรือยกเลิกกฎหมายในฐานะรัฐบาล

แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีความกังวลใจว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 151 คนของพรรคก้าวไกลจะไปผลักดันเองในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและในการประชุมรัฐสภานั้นก็เป็นเรื่องอนาคต ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมี 500 คนแต่มีจำนวนเพียงแค่ 151 คนเท่านั้นที่จะไปดันการแก้ไขยกเลิกมาตรา 112 จึงเชื่อว่านอกจากจะบรรจุวาระไม่ได้เหมือนกับครั้งที่ผ่านมาแล้วแม้ดันทุรังเข้าไปก็ไม่มีใครให้ผ่านอยู่ดีเพราะทุกพรรคไม่มีใครเอาด้วย

"และไม่ใช่เพียงแค่ทุกพรรคที่ไม่เอาด้วยแต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เอาด้วย หลักฐานชัดเจนที่สุดคือ 27 ล้านเสียงที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล ดังนั้นการแก้ปัญหาเวลานี้เพียงยึดถือกติกาและช่องทางที่มีอยู่ก็จัดการปัญหาได้แล้วอย่าไปหาทางออกที่เป็นการหาเรื่องให้เป็นเงื่อนไขไม่สิ้นสุด"