"สมชาย" ขุดคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี53 ระบุถือหุ้นเดียวเท่าการถือหุ้นตามรธน.50

"สมชาย" ขุดคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี53  ระบุถือหุ้นเดียวเท่าการถือหุ้นตามรธน.50

"สมชาย"โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นไปทีวี ขุดคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี53 ชี้ ส.ส.ขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นในเอกชนได้สัมปทานรัฐ ถือหุ้นเดียวเท่ากับเป็นการถือหุ้นตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว  เรื่อง  ปริศนาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นไอทีวี  ข้อที่2  คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร พร้อมกับภาพเอกสารคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 12-14/2553 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 ระบุว่า “ การถือหุ้นเพียงหุ้นเดียว ก็ย่อมเป็นการถือหุ้นตามความหมายในรัฐธรรมนูญแล้ว แม้ผู้ถือหุ้นจะไม่มีอํานาจบริหารหรือครอบงํากิจการก็ตาม การที่รัฐธรรมนูญบัญญัติห้ามการถือหุ้นไว้ชัดเจน ก็เพื่อเป็นการป้องกัน

ไม่ให้ผู้ดำรงตําแหนง่ ทางการเมือง รวมทั้งสมาชิกสภาผผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา มีช่องทางที่จะใช้หรือถูกใช้ตําแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในทางใดทางหนึ่ง”

 

ทั้งนี้มีผู้แสดงความคิดเห็น เป็นจำนวนมาก  ทั้งนี้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นที่ใช้ชื่อว่า Pemkhetgarn Jakkrit ตั้งคำถามว่า “กฏหมายที่บังคับใช้ทุกมาตราต้องคำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฏหมายเป็นสำคัญ ท่านสว. คิดว่าเรื่องถือครองหุ้นสื่อที่ปิดบริษัทไม่ได้ดำเนินการแล้วที่เหลือเพียงกำไรจากการถือครองหุ้นตราสารหนี้ที่ถือครองมาก่อนจะปิดกิจการ มันไปผิดเจตนารมณ์ของกฏหมายตรงไหน พวกท่านรู้ตัวกันบ้างไหม ว่าที่ประชาชนเกลียดพฤติกรรมของพวกท่านนั้นมันมีสาเหตุมาจากอะไร”

\"สมชาย\" ขุดคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี53  ระบุถือหุ้นเดียวเท่าการถือหุ้นตามรธน.50

และมีผู้ตอบกลับความเห็นดังกล่าวด้วยว่า “ยังดำเนินกิจการอยู่และมีรายได้ภาษีทุกปี และลักษณะของไอทีวี ยังไม่ปิดกิจการ เป็นการหยุดออกอากาศ เขาพรร้อมมจะดำเนินกิจการต่อได้ตลอดเวลา”

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 12-14/2553 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2553 นั้นเป็นประเด็น เรื่อง ส.ว.และ ส..กระทำต้องห้ามอันเป็นเหตุให้สมาชิกสภาสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ซึ่งประธานวุฒิสภาและประธานสภาฯส่งให้วินิจฉัย  ส.ว. 16 คน และส.ส. 29 คน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. เคมมีคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.​จำกัด (มหาชน), บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) ต่อมาคือบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ที่เป็นบริษัทซึ่งรับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 265 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 48 กำหนดให้เป็นลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ส.ส. และส.ว.

 

 

และผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว ระบุให้ นายสมเกียรติ ฉันทวานนิช, นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร, นางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ, นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ , ร.ท. ปรีชาพล พงษ์พานิช, ม.ร.ว.กิตติวัฒนา ปกมนตรี ต้องสิ้นสุดสมาชิกภาพ เนื่องจากมีการกระทำที่ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นายสมชาย ได้โพสต์เฟซบุ๊ค ถึงปรินาธรรมการเมืองเรื่องหุ้นไอทีวี  ข้อที่1 หัวข้อ “อะไรคือความเหมือนของ2บริษัท?” โดยได้โพสต์ข้อมูลรายละเอียดของกรรมการบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) ว่า มีจำนวน 5 คนได้แก่  1.นายคิมห์ สิริทวีชัย, 2.นายจิตชาย มุสิกบุตร, 3.นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส , 4.น.ส.ธัญลักษณ์ บัวทอง และ 5 นางรัตนาพร นามมนตรี

 

และข้อมูลของบริษัทอาร์ตแวร์มีเดีย จำกัด พบว่ามีกรรมการผู้ถือหุ้น จำนวน 3 คน คือ 1.นายคิมห์ สิริทวีชัย, 2.นายจิตชาย มุสิกบุตร และ 3.นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส

 

\"สมชาย\" ขุดคำวินิจฉัยศาลรธน.ปี53  ระบุถือหุ้นเดียวเท่าการถือหุ้นตามรธน.50