"ชวน" มองสูตร8พรรค313เสียง "ไม่พลิกล็อก" ส.ว.มีวุฒิภาวะ- ปชป.รับความพ่ายแพ้

"ชวน" มองสูตร8พรรค313เสียง "ไม่พลิกล็อก" ส.ว.มีวุฒิภาวะ- ปชป.รับความพ่ายแพ้

"ชวน" มองสูตรจับขั้วรัฐบาลพรรคก้าวไกล 8พรรค313เสียง "ไม่พลิกล็อก" ไร้สัญญาณพลิกขั้ว-เผด็จการรัฐสภา เชื่อ ส.ว.มีวุฒิภาวะ ส่วนปชป.น้อมรับความพ่ายแพ้

"สูตรจัดตั้งรัฐบาล" ภายใต้พรรคก้าวไกล ในการรวบรวมเสียง 8พรรค313 เสียง ประกอบด้วย ก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ ไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย เพื่อไทรวมพลัง พรรคเป็นธรรม พรรคพลังสังคมใหม่ ที่ปรากฎออกมาล่าสุดเป็น ค่อนแน่ชัดแล้วว่า สูตรจัดรัฐบาลขั้วรอบนี้จะยังคงเน้นที่การจับขั้วระหว่างขั้วฝ่ายค้านเดิมเป็นหลัก 

เป็นเช่นนี้จึงมีการจับตาไปที่ขั้วรัฐบาลในปัจจุบันโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่สุดแล้วจะตัดสินใจลงมติเลือกนายกฯคนที่30 อย่างไร 

ประเด็นนี้มีความเห็นจาก นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการ Morning Nation ออกอากาศ NationTV22 ว่า ชี้แจงอีกครั้งกรณีออกมาแสดงความเห็นเรื่องการจับขั้วพร้อมยืนยันว่า กรณีที่ระบุว่าไม่ร่วมรัฐบาลโจร โดยมีการโยงไปถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นข้อมูลที่บิดเบือน 

นายชวนยังยืนยันว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เป็นการหยิบยกการปราศรัยที่วงเวียนใหญ่ว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องพร้อมที่จะเป็นได้ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านไม่ใช่ว่าจะร่วมได้ทั้งหมดพระก็ร่วมได้โจรก็ร่วมได้

ยืนยันว่า ตนต้องต้องการจะชี้ให้ประชาชนเห็นว่าไม่ใช่ว่าต้องการเป็นรัฐบาลให้ได้อย่างเดียวแต่ต้องพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านคนเป็นผู้นำฝ่ายค้าน3ครั้งเป็นนายกฯ2ครั้ง  เพราะฉะนั้นพรรคที่จเป็นหลักของบ้านเมืองต้องมีความพร้อมไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นรัฐบาลทุกครั้ง
   

เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับปรากฎการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้รวมถึงตัวเลขรัฐบาล พรรคก้าวไกล  มีความพร้อมทุกอย่างตามครรลองของประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นแล้วหรือไม่  นายชวน กล่าวว่า  ผมเคยพูดไว้ก่อนการเลือกตั้งเมื่อดูตัวเลขจากผลโพล การตั้งรัฐบาลมันจะไม่ยากเหมือนก่อนๆ เราเห็นได้ชัดว่าสัดส่วนของพรรคที่ได้คะแนนสูงสามารถรวมกันได้โดยไม่ต้องอาศัย 10-20 พรรคดังที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

เพราะฉะนั้นน่าจะทำได้ง่ายแล้วเป็นความชอบธรรมของพรรคที่ชนะเขาจะมารวมเสียงกัน 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคเตรียมเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ลงมติฟรีโหวตเลือกนายกฯ นายชวนกล่าวว่า ปกติแล้วต้องเป็นมติพรรค ซึ่งเรื่องนี้ควนเสนอในที่ประชุมพรรคไม่ใช่เสนอภายนอก

ถามย้ำถึงจุดยืนส่วนตัวในการโหวตนายกฯรอบนี้ นายชวนกล่าวว่า ผมคิดว่าต้องรอความเห็นในพรรค ไม่มีอะไรผิดไปจากการจัดตั้งรัฐบาลทั่วไปในอดีตก็มี2ฝ่ายเสมอ คือฝ่ายค้านและรัฐบาล

แต่ยอมรับว่ามีความกังวลเรื่องส.ว.เวลานี้ยังมองไปในทางบวกว่า เขาก็เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ แน่นอนว่าเขาก็มีหนี้บุญคุณสำหรับผู้ที่แต่งตั้ง แต่เท่าที่ผมเป็นประธานประชุมร่วมกับเขามา4ปีก็คิดว่าเขาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาเขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องที่มา

โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลและส.ว.ก็มีการต่อว่ากันรุนแรง ก็เป็นธรรมดาที่อาจมีความกินแหนงแคลงใจกันแต่เชื่อว่าส.ว.ส่วนใหญ่มีวุฒิสภาวะ จะโหวตอะไรก็เชื่อว่าเขาคงมีเหตุผล
  

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมกลับมาเป็นฝ่ายค้านหากดูตัวเลขที่ออกมา นายชวนกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค แต่ส่วนตัวมองว่า พรรคก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้เป็นครั้งที่เราได้สมาชิกน้อยที่สุด น้อยกว่าครั้งที่แล้วก็ต้องประมาณตัวเองว่าเราต้องทำหน้าที่อย่างไร

เมื่อถามว่า หากที่สุดแล้วไม่สามารถโหวตนายกฯได้ โอกาสที่พรรคการเมืองลำดับ2และ3จะก้าวขึ้นมาเสนอตัวตั้งรัฐบาลมีมากน้อยแค่ไหน นายชวนกล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าครั้งแรกน่าจะผ่าน หรือหากไม่ผ่านผู้เสนอครั้งแรกก็เสนอได้ต่อไปไม่มีปัญหา เพียงแต่ว่าเขาอาจต้องไปเจรจาขอเสียงพรรคอื่นๆเพื่อให้คะแนนมากขึ้นได้

ส่วนตัวยังมองว่าไม่มีอะไรผิดปกติหรือน่ากังวล แต่ถ้าถึงที่สุดพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็คงจะอยู่ในกลุ่มนั้นว่าเขาจะตกลงกันอย่างไร

นายชวนยังมองตัวเลข8พรรค313เสียงในขณะนี้ว่า ตนไม่แน่ใจแล้วแต่ดุลพินิจของผู้รวบรวม แต่เท่าที่ทราบคือเขาไม่มั่นใจในเสียงของส.ว.

เชื่อว่าตัวเลขที่มาจะไม่ก่อให้เกิดเผด็จการรัฐสภา เพราะการเกิดเผด็จการรัฐสภาจะเกิดขึ้นต่อเมื่อไปซื้อตัวพรคการเมืองต่างๆมาดังที่เคยเกิดขึ้นเพื่อให้ตัวเลขสูงและฝ่ายค้านไม่สามารถเสนอญัตติอะไรได้ เช่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นต้น ถ้ามาจากประชาชนเลือกตรงนี้ไม่ถือว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา 

เมื่อถามไปถึงบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ประธานสภาที่รอบนี้อาจเป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อย นายชวนคิดว่าไม่ใช่ตัวปัญหา พรรคก้าวไกลก็มีคนที่เก่งกฎหมายและรู้เกมสภา รวมถึงรู้กฎเกณฑ์กติกาเป็นอย่างดีคิดว่าไม่น่ามีปัญหา แต่ที่สำคัญคือการทำหน้าที่ด้วยการรักษาความเป็นกลางเป็นหลัก คิดว่าครั้งนี้ไม่อยากเหมือนครั้งที่แล้วที่มีสมาชิกหน้าใหม่เกินครึ่ง ที่ผ่านมาน่าจะมีบทเรียนมากขึ้น

นายชวนยังกล่าวทิ้งท้ายถึง ถึงโหวตเตอร์เลือกตั้งรอบนี้ที่สะท้อนชัดเจนว่าเขาอยากเปลี่ยน ในส่วนของพรรคก็ได้ให้กำลังใจสมาชิกขอให้ยึดมั่นตรงนี้เพราะที่สุดประชาธิปไตยที่แท้จริงจะต้องมาด้วยความชอบธรรม ผลเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาก็ได้ติดตามตลอด

นอกเหนือจะกระแสที่เปลี่ยนแปลงเลือกตั้งรอบนี้ยังพบว่ามีการทุ่มเงินเยอะ แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลไม่ได้คิดอะไรเขาคิดว่าเขาไม่ได้ใช้เงินซื้อเสียงอันนี้เป็นภาพบวกของเขา ก็ต้องชื่นชมเขา