ปธ.กกต.ไม่ฟันธงแต่พร้อมสอบ ปมยิงเลเซอร์หาเสียง รทสช.บนสะพานพระราม 8

ปธ.กกต.ไม่ฟันธงแต่พร้อมสอบ ปมยิงเลเซอร์หาเสียง รทสช.บนสะพานพระราม 8

ประธาน กกต.ไม่ฟันธงปมยิงเลเซอร์หาเสียงพรรค “รทสช.” บนเสาสะพานพระราม 8 ผิดกฎหมาย แต่พร้อมดูมีการขออนุญาตหรือไม่ ชี้ถ้ามีการขออนุญาตเจ้าของพื้นที่แล้วก็ไม่ผิด

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตอบคำถามกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยิงเลเซอร์หาเสียงของพรรคบนเสาสะพานพระราม 8 ช่วงค่ำวานนี้ (8 พ.ค.) ว่า ขณะนี้ปลัด กทม.ในฐานะเจ้าของพื้นที่กำลังตรวจสอบว่า มีการขอออนุญาตใช้พื้นที่หาเสียงหรือไม่ ซึ่งปกติแล้วการใช้พื้นที่ราชการต้องขออนุญาตก่อน แล้วเจ้าของสถานที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งหากตรวจสอบพบว่ามีความผิด ก็จะผิดเรื่องการวางป้ายหาเสียงที่ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้การโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมืองต่างๆ สามารถทำได้ แต่ต้องไม่ขัดกับระเบียบการเลือกตั้ง โดยตัวระเบียบเป็นแนวทางปฏิบัติ แต่ถ้าส่วนไหนไม่ชัดเจนทางพรรคการเมืองสามารถสอบถามที่ กกต.ได้

นายอิทธิพร กล่าวอีกว่า โดยปกติการติดป้ายโฆษณาหาเสียงของพรรคการเมืองตามที่ต่างๆ จะมีประกาศของ ผอ.เขตเลือกตั้งกำหนดจุดติดตั้งป้ายหาเสียงไว้ แต่ถ้าจะติดป้ายนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งถ้าหน่วยงานอนุญาตให้ติดป้ายก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ดีถ้าจะมีความผิดคือการติดป้ายหาเสียง หรือทำการหาเสียงไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ถ้าพบว่าผิดก็ต้องมีการดำเนินคดี

เมื่อถามว่าพรรคการเมืองสามารถติดป้ายหาเสียงในสถานที่ราชการได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามระเบียบ กกต.เขียนไว้ชัดเจนว่าต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ เช่น ถ้าอยู่พื้นที่ต่างจังหวัดจะติดตั้งป้ายหาเสียงในพื้นที่ของกรมทางหลวง ต้องมีการขออนุญาตที่แขวงทางหลวงของจังหวัดนั้นๆ ทั้งนี้ หน่วยงานของรัฐจะเป็นผู้พิจารณา ถ้ามีการขออนุญาตติดป้ายหาเสียงก็คงอนุญาตทุกพรรคการเมืองเพื่อรักษาความเป็นกลาง

ประธาน กกต. กล่าวด้วยว่า การหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. ได้เน้นย้ำไปยังพรรคการเมืองถึงระเบียบการหาเสียง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ขอให้ทุกคนยึดมั่นในการหาเสียงอย่างถูกต้อง พร้อมยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้สมัครและพรรคการเมืองมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ไม่เกิดข้อครหา