กกต.ตอบก้าวไกล ปมจ้างคนนอกสังเกตการณ์นับคะแนนเลือกตั้ง 66 ทำได้

กกต.ตอบก้าวไกล ปมจ้างคนนอกสังเกตการณ์นับคะแนนเลือกตั้ง 66 ทำได้

กกต.ตอบข้อซักถาม “ก้าวไกล” ชัด ปมจ้าง “คนนอก” เฝ้าสังเกตการณ์นับคะแนนเลือกตั้ง 66 หลังปิดหีบ สามารถทำได้ แต่การจ่ายค่าแรงต้องสอดคล้องกับค่าแรงแต่ละจังหวัด ส่วนอาสาสมัครไม่รับค่าจ้างพรรค ต้องนำมาคำนวณค่าใช้จ่ายด้วย

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 มีรายานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 ที่ผ่านมา สำนักงาน กกต. ทำหนังสือตอบข้อสอบถามกรณีพรรคก้าวไกลได้ขอสอบถามเกี่ยวกับการปฏิบัติของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และพรรคการเมือง หรือข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศ กกต.

โดยพรรคก้าวไกลสอบถามว่าในวันเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สามารถจ้างแรงงานบุคคลให้สังเกตการณ์การนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้ง หลังปิดหีบเลือกตั้ง หรือจ้างแรงงานผู้สังเกตการณ์การทุจริตในการออกเสียงลงคะแนนโดยประจำอยู่ที่บริเวณนอกหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมิใช่บุคคลที่พรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้แทนพรรคการเมืองเพื่อสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ได้ใช่หรือไม่ และกรณีผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง สามารถจ้างแรงงานบุคคลได้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ สามารถจ่ายค่าจ้างแรงงานในอัตราค่าตอบแทนตามความเหมาะสม เช่น ในอัตรา 500 บาท ต่อวัน ได้หรือไม่ โดยสำนักงานกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถจ้างได้ โดยการจ่ายค่าจ้างแรงงานควรสอดคล้องกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในแต่ละจังหวัด

พรรคก้าวไกลยังสอบถามกรณีที่บุคคลซึ่งพรรคการเมืองแจ้งเป็นผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้ง อันเป็นกรณีพรรคการเมืองได้ดำเนินการตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้น ไม่ประสงค์รับค่าจ้างตอบแทนการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์การเลือกตั้ง และไม่รับค่าจ้างตอบแทนในการดำเนินการดังกล่าว เช่นนี้ พรรคการเมืองจะต้องคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือไม่ โดยสำนักงานกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคการเมืองต้องนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง

ส่วนกรณีการดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ วันสุดท้ายที่พรรคการเมืองสามารถดำเนินการสรรหาผู้สมัครดังกล่าวได้ คือวันก่อนวันเริ่มรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ใช่หรือไม่ สำนักงานกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า ต้องดำเนินการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามมาตรา 47 ถึง มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566