ปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนสไตล์ แข่ง "ผู้นำ" หวังพลิกเกม

ปรับกลยุทธ์ เปลี่ยนสไตล์ แข่ง "ผู้นำ" หวังพลิกเกม

ปรับแผน 100 เมตรสุดท้าย รทสช.ปล่อยคลิปคุยกับลุง “พี่ตู่”ลบภาพ“ลุงขี้หงุดหงิด” เพื่อไทยจัดหนักทุกเวที ปล่อยสารคดีคลี่ชีวิตการเมือง "แพทองธาร ชินวัตร" เก็บแต้มชุดสุดท้ายเข้าสภาฯ แด๊ดดี้เลี้ยงเดี่ยว “พิธา” ชัด-พร้อม-ตั้งใจ ลุ้นนายกฯ รุ่นใหม่ 

พ้นโค้งสุดท้าย เข้าสู่ทางตรง 100 เมตรในการหาเสียงเลือกตั้ง หากพิจารณาตามโพลสำนักต่างๆ ก็เหลือเพียงไม่กี่พรรคที่มีแนวโน้มชนะเลือกตั้ง มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่นั่นก็เป็นเพียงการคาดการณ์ เพราะบรรดา 2-3 พรรค ที่คู่คี่สูสีกัน ต่างงัดกลยุทธ์โค้งสุดท้าย ที่เห็นได้ชัดว่า แข่งกันโชว์ “ผู้นำพรรค” ที่จะขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ประชาชนได้ตัดสินใจ 

พรรคเพื่อไทย ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นพรรคอันดับ 1 ขณะที่ถูกกระแสพรรคก้าวไกล ในขั้วเดียวกัน ไล่มาติดๆ จึงถูกจับจ้องถึงการปรับแผนขนานใหญ่ เพื่อแก้เกมในโค้งสุดท้าย หลังจาก 1 ในแคนดิเดตนายกฯ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลาคลอดไประยะหนึ่ง เวลานี้เธอประกาศกลับมาสู่เวที พร้อมกับสารคดีไฮไลท์ ที่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 

คลิปสารคดี “แพทองธาร ชินวัตร’ ใน ‘The Candidate Paetongtarn” ที่เผยแพร่ทางโซเซียลอย่างเป็นทางการ เพื่อสื่อสารถึงประชาชน ผ่านหลายมุมมอง หลายบทบาทของเธอ จากลูกสาวอดีตนายกฯ คนดัง สู่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย 

แพทองธาร เขียนอธิบายว่า The Candidate Paetongtarn คือโปรเจกต์พิเศษที่เธอทำงานร่วมกับทีมงานพรรคเพื่อไทย เป็นสารคดีที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางทางการเมือง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ จากภาคธุรกิจสู่ภาคการเมือง จากทักษิณ ชินวัตรสู่แพทองธาร คู่ขนานไปกับการเดินทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยตลอด 1 ปี 6 เดือน ผ่านคำบอกเล่าของหลายบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ภูมิธรรม เวชยชัย ชลน่าน ศรีแก้ว ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และพี่น้องที่ทำงานร่วมกันในภาคธุรกิจ รวมถึงปากคำสัมภาษณ์จากตัวแพทองธารเอง

สารคดีตัวนี้คือกระจกสะท้อนตัวตนของอุ๊งอิ๊ง ในบริบทการเมือง ที่ถูกย่อมาให้เหลือแค่ 18 นาที ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งเธอบอกว่า ทั้งหมดนี้เป็นการเดินทางที่ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นบททดสอบที่ยาก และอยากชวนทุกคนมารู้จักกันให้มากขึ้น

ถือเป็นการตอกย้ำ สร้างภาพจำ ความเป็นผู้นำหญิงของแดงทั้งแผ่นดิน 

ขณะเดียวกัน เพื่อไทยก็ยังโชว์จุดแข็ง ให้แคนดิเดตนายกฯ ลำดับรอง โดยเปิดทางให้ แคนดิเดตนายกฯอีกคนคือ “เศรษฐา ทวีสิน” โชว์บทบาท แสดงวิสัยทัศน์ มากขึ้นบนเวทีต่างๆ 

โดยมีเป้าหมาย ชนะแบบแลนด์สไลด์ให้ได้ และต้องได้ ส.ส.มากที่สุด ทะลุ 300 เสียงยิ่งดี แม้จะยากแต่ต้องสร้างตัวเลขเพื่อ “ชี้นำกระแส” และตอกย้ำจุดแข็ง 2 ข้อของตัวเอง คือ มีศักยภาพตั้งรัฐบาลได้จริงแค่พรรคเดียวเท่านั้น และมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาบ้านเมืองมากกว่าพรรคก้าวไกล

ดังนั้น นอกจากการตอกย้ำ ความพร้อมของ 2 ว่าที่นายกฯ ของพรรคแล้ว เพื่อไทยยังปรับกลยุทธ์โค้งสุดท้าย ลุยแคมเปญ “เพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ อยู่กับ 3 ป.ไปอีก 4 ปี” ซึ่งเป็นแนว Create fear ตามสูตร 

ไม่ได้มีเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ปรับแผนสู้โค้งสุดท้าย แต่ขั้วตรงกันข้ามอย่าง “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่มี “บิ๊กตู่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นจุดขาย ก็มีการปรับแผน ปรับลุค และปรับภาพลักษณ์ เพื่อสู้ศึกช่วง 7 วันสุดท้ายด้วยเช่นกัน

โดยจังหวะเดียวกัน พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ปล่อยคลิปบทสัมภาษณ์ และการพูดคุยกับ “บิ๊กตู่” แบบเบาๆ สบายๆ เพื่อลบภาพความเป็น “ลุงโมโหร้าย - อดีตทหารขี้หงุดหงิด” ซึ่งเป็นภาพจำแง่ลบมาโดยตลอด

คลิป “คุยกับลุง” ประมาณ 7 นาที เป็นการพูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในบรรยากาศสบายๆ โดยพล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ลายใบไม้สีเหลือง กางเกงสแล็กสีดำ รองเท้าหนังโลฟเฟอร์ พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทีมงาน เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว ตั้งแต่วัยเด็ก งานอดิเรก กีฬา และชีวิตครอบครัว

โดยเริ่มเล่าถึงที่มาของชื่อ “ประยุทธ์” ว่ามีที่มาจากระหว่างที่เกิดในค่ายทหารที่ จ.นครราชสีมา มีการซ้อมรบ พ่อจึงตั้งชื่อว่า “ประลองยุทธ์” แต่เมื่อพ่อไปหาหมอพระ ได้ขอให้เปลี่ยนเป็น “ประยุทธ์” จึงได้ชื่อนี้มาตั้งแต่เกิด และจากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ต้องต่อสู้มาตลอด ตามความหมายของชื่อที่แปลว่า “ต่อสู้นั่นเอง” 

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นคนดุ เจ้าตัว บอกว่า "จริงๆ ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น อยากให้เห็นใจผมด้วย แต่เข้าใจก็พยายามปรับตัว จนทุกวันนี้พยายามพูดเล่น พูดจริงบ้าง ทำให้เห็นว่าตอนนี้นักข่าวก็แฮปปี้ ที่พอผมเป็นแบบนี้ คำถามก็หายไปเยอะ แสดงว่าที่ผ่านมา ผมอาจจะถูกแหย่ให้โมโห ทุกวันนี้ผมก็ทักทายยิ้มแย้มแจ่มใส นักข่าวก็ชอบแต่ก็บอกว่าเขียนอะไรไม่ค่อยได้"

อีกทั้งยังเล่าถึงเรื่องราวความซนในวัยเด็ก ความชอบกีฬาฟุตบอล การดูซีรีส์เกาหลี หรือแม้แต่เรื่องความรัก ที่ตอบคำถามว่าเป็นคนเจ้าชู้หรือไม่ และจีบภรรยาอย่างไร 

"คนส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าทหารเจ้าชู้ แต่โดยนิสัยผมเป็นคนขี้อ้อน ชอบพูดตลกให้เขาขำ แต่ผมก็ซื่อสัตย์กับภรรยาคนเดียว คุยกับภรรยาทุกวัน รักภรรยาทุกวัน และภรรยาเองก็เคยงอนเพราะลืมวันสำคัญเช่น วันวาเลนไทน์ หรือวันเกิดต้องใช้เวลาง้อนานเพราะบางทีก็ลืม จึงไม่รู้ว่าภรรยาโกรธเรื่องอะไร ผมก็ต้องง้อ ด้วยการพูดว่า ขอโทษนะจ๊ะ ไม่ได้เจตนา”

ถือเป็นคลิปวิดีโอ ที่ทำให้ประชาชนได้รู้จัก พล.อ.ประยุทธ์ ในมุมส่วนตัว ที่มีเสียงตอบรับที่ดี 

ขณะที่ในมุมการเมือง มีข้อสังเกตว่า มีการปรับคำพูด และคำปราศรัยของ “บิ๊กตู่” โดยชูจุดเด่นของตนเอง ที่หัวหน้าพรรคอื่น และแคนดิเดตนายกฯคนอื่นไม่มี เช่น เป็นคนแก่ แต่เก๋า มีประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ชีวิตหรือการทำงานเพราะอายุเยอะ แต่เป็นนายกฯมาถึง 8-9 ปีแล้ว และนำประเทศฝ่าวิกฤติหนักๆ มาได้หลายวิกฤติ

เป็นอดีตข้าราชการ ไม่ใช่นักธุรกิจ ไม่เคยทำธุรกิจ ไม่มีหุ้นบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน และการเป็นอดีตข้าราชการ จึงเหมือนเป็น “ลูกจ้างประชาชน”

ย้ำจุดแข็งเรื่อง “รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ - ปกป้องสถาบันยิ่งชีพ” ย้ำจุดยืนเรื่อง “ไม่เอาทักษิณ - ไม่นิรโทษกรรม” ถ้าอดีตนายกฯ ทักษิณจะกลับบ้าน ต้องมารับโทษและถูกดำเนินคดีเท่านั้น และไม่รอมชอมกับกลุ่มสามนิ้ว ขั้วอำนาจเก่า และการเคลื่อนไหวที่กระทบสถาบันหลักของชาติ

 อย่างไรก็ตาม หากอ่านเกมจากผลโพลเกี่ยวกับคะแนนเสียงที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร “รวมไทยสร้างชาติ”ก็มีโอกาสได้แต้มจาก “พลังเงียบ” ที่่อาจพร้อมสนับสนุน “ลุงตู่” หากได้เห็นตัวตน

ตัดกลับมาที่พรรคก้าวไกล "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรค ที่กระแสขาขึ้น ยังแรงดี ไม่มีแผ่ว และยังขยับขึ้นมาเรื่อยๆ 

กระแสแฟนคลับด้อมส้ม ต้อนรับ “แด๊ดดี้” พิธา อย่างคึกคักทุกพื้นที่ ไม่ต่างกับดาราดัง ด้วยลุคแด๊ดดี้ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว 

ซึ่งเจ้าตัวมักจะโชว์รูปภารกิจการเมืองที่หนัก ไปพร้อมๆ กับการเลี้ยงลูกที่ไม่ขาดตกบกพร่อง กระเตงลูกไปหลายพื้นที่ ที่ต้องไปหาเสียง หรือแม้แต่ภาพกิจกรรมในครอบครัวกับอดีตภรรยา ที่มีเสียงชื่นชม 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพลักษณ์นักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ ไฟแรง และวิสัยทัศน์ในการเดินสายทั้งปราศรัย และดีเบตในเวทีต่างๆ รวมทั้งขยันเซอร์ไพรส์ เช็คเรตติ้งในพื้นที่ต่างๆ  จึงทำให้สังคมได้รับรู้ และพอจะเห็นตัวตนพิธาได้มากขึ้น 

และในระยะหลัง พิธา และก้าวไกล พร้อมทีมก้าวหน้า ยังกล้าลุยไปยังฐานที่มั่นสำคัญของคู่แข่ง ทั้งนนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี จนกลายเป็นกระแสอย่างต่อเนื่อง

"สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจกว่าโพลทุกสำนัก คือการได้เห็นประชาชนมารวมตัวกันจำนวนมาก เห็นได้ชัดว่านนทบุรีแตกแล้ว เมื่อก้าวไกลทั้งแผ่นดินแบบนี้ คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล จึงขอใช้เวทีนี้ประกาศต่อประชาชนว่าพรรคก้าวไกลพร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรามีทั้งความชัดเจนและความพร้อม กล่าวคือ ‘ชัด’ ในจุดยืน ‘มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง’  และ ‘พร้อม’ สร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต มีความตั้งใจแก้ไขปัญหาการเมืองและปัญหาปากท้องไปพร้อมกัน เพราะทั้ง 2 อย่างคือเรื่องเดียวกัน และที่สำคัญที่สุด ‘ความตั้งใจ’

อย่างไรก็ตาม แม้ออร่านายกฯ จะจับมาที่พิธา แต่ก้าวไกล ก็ยังคุมโทนเล่นเป็นทีม ดังนั้นสัปดาห์สุดท้าย จึงใช้ยุทธศาสตร์ "คาราวานก้าวไกล ถนนทุกสายมุ่งสู่ทำเนียบฯ" โดยแบ่ง 5 สายนำทัพเหนือจดใต้ กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ก่อนจะกลับมารวมกันปราศรัยใหญ่ 12 พ.ค. เพื่อปิดท้ายแคมเปญ “ปลุกประชาชน กาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน”

ที่น่าสนใจ ทีม Move Forward Crusaders ยังได้ทำ Partylist Toon ขึ้นมา เพื่อแนะนำผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อในทุกประเด็นให้ประชาชนรู้จัก โดยการ์ตูนชุดนี้ ได้นำเสนอ ส.ส.บัญชีรายชื่อในบางประเด็น เช่น ตัวตึงการเมือง เศรษฐกิจก้าวไกล คนเท่ากัน สิทธิ LGBTQ+ คนแรงงาน คู่หูสันติภาพ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สาธารณสุขก้าวไกล และคนสื่อ 

ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ คือกลยุทธ์ของพรรคที่มีโอกาสผงาดขึ้นมาสู่แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นโค้งสุดท้ายจึงต้องจัดหนักเต็มอัตราศึก เพราะเดิมพันรอบนี้ การเมืองไทยมีโอกาสพลิกขั้วได้มากที่สุด