ชิง 2 เก้าอี้เมืองสามหมอก “ผู้กอง-เสธ.หิ”รบแตกหัก-เข้าทางตาอยู่ "ภท."

ชิง 2 เก้าอี้เมืองสามหมอก “ผู้กอง-เสธ.หิ”รบแตกหัก-เข้าทางตาอยู่ "ภท."

ศึกเมืองสามหมอกตัวแทน “2 บิ๊ก” น่าจะฟาดฟันกันมันหยดและตัดแต้มกันเอง ดังนั้นเขต 1 เเม่ฮ่องสอน น่าจะสู้กันระหว่าง “ปกรณ์-จำลอง” และต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก “เสธ.หิ-ผู้กองนัส” ตัดแต้มกันเอง จนอาจเข้าทางตาอยู่ที่ชื่อ "นันทิยา"

เมืองสามหมอก จ.แม่ฮ่องสอน แม้จะมี ส.ส. เพียง 2 เขต แต่การแย่งชิงดุเดือดไม่แพ้สนามอื่น เพราะแทบไม่มีตระกูลการเมืองมาผูกขาดในพื้นที่แบบถาวร ปัจจัยที่จะทำให้ผู้สมัคร ส.ส. ชนะการเลือกตั้งจึงมักอิงกับคะแนนนิยมตัวบุคคลมากกว่ากระแสนิยมพรรค 

ซึ่งกระแสพรรคในพื้นที่ภาคเหนือเทไปทางพรรคเพื่อไทย โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวสอดแทรกในบางพื้นที่ แต่ในบางเขตเลือกตั้งคะแนนนิยมตัวบุคคล อาจจะเป็นปัจจัยหลักในการชี้วัดผลแพ้-ชนะ เช่นเดียวกับศึกชิงเก้าอี้ส.ส. เมืองสามหมอก

เขต 1 แชมป์เก่า “ปัญญา จีนาคำ” ส่ง “ปกรณ์ จีนาคำ” ที่เพิ่งไขก็อกนายกฯเล็กมาลงสมัครในเขตหนึ่ง    โดยปกรณ์คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “ปัญญา” สายตรง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” โดยเที่ยวนี้ “ปัญญา” ขึ้นไปเป็นผู้สมัครส.ส. บัญชีรายชื่อ
 

ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติที่ส่ง “จำลอง รุ่งเรือง” อดีต ส.ส. หนึ่งสมัย แม้ที่ผ่านมาจะลงเเข่งขันทุกครั้งแต่ยังไม่ถึงฝั่ง คราวนี้ “จำลอง” แท็กทีมกับ “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ เพื่อประชันอีกรอบ

ด้านพรรคภูมิใจไทยส่ง "นันทิยา วงศ์วานิชย์" ทายาท "อนันต์ วงศ์วานิชย์" อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเเม่ฮ่องสอน 8 สมัยลงประชัน โดย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คาดหวังเอาไว้สูงลิบ เพราะไม่นานมานี้ “อนุทิน” เพิ่งลงพื้นที่มาหาเสียงให้ ผู้สมัครส.ส. ในสังกัดที่สนามกีฬากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

บวกกับ “นันทิยา” เกาะพื้นที่มาอย่างยาวนาน มีเครือข่าย “อสม.” เป็นแบ็คอัพ พ่วงแคมเปญ "ส่งเสริมให้ถูกจุด ต่อยอดให้ถูกที่ แก้ปัญหาให้ถูกทาง" ปลุกกระเเส"โอกาสเดียวที่จะเปลี่ยน "เพื่อทำให้คนแม่ฮ่องสอนเทใจให้เเบบเต็มถัง

ทำให้ศึกตัวแทน “2 บิ๊ก” น่าจะฟาดฟันกันมันหยดและตัดแต้มกันเอง ดังนั้นเขต 1 เเม่ฮ่องสอน น่าจะสู้กันระหว่าง “ปกรณ์-จำลอง-นันทิยา” และต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนัก “เสธ.หิ-ผู้กองนัส” ตัดแต้มกันเอง จนอาจเข้าทางให้ “นันทิยา” ที่ครองใจ 13 ชาติพันธุ์ในพื้นที่โอกาสเข้าวินได้เเบบตาอยู่ 
 

เขต 2 แข่งขันกันระหว่าง 2 ตัวแทนจากกลุ่มชาติพันธุ์ “สมบัติ ยะสินธุ์” จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนกับ “วิทยา หวานซึ้ง” จากพรรคเพื่อไทย “วิทยา” มีจุดเด่นที่เป็นชนเผ่าม้ง และประกอบธุรกิจพืชผลเกษตรรายใหญ่ส่งตลาดไท ทำธุรกิจกับชนเผ่าในจังหวัด ทำให้มีฐานคะแนนเสียงของชาวม้ง ขณะที่ “สมบัติ” ก็ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มชาติพันธุ์ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเช่นกัน  

เมื่อต่างคนต่างมีฐานเสียงจากชนเผ่าในพื้นที่ จึงต้องวัดกันว่า ระหว่าง “สมบัติ” กับ “วิทยา” ใครจะได้ใจกลุ่มชนเผ่าเมืองสามหมอกมากกว่ากัน ส่วนผู้สมัครคนอื่นๆในเขต 2 แม่ฮ่องสอน “น่าจะเป็นสีสันในเกม” แต่บางครั้งก็ประมาทไม่ได้เช่นกันเพราะ”ม้ามืด”ปรากฏเสมอในทุกการเลือกตั้ง