"ส.ว." อกหัก ดันปลดล็อค "ส.ว.-อดีตส.ว." มีสิทธิเป็น "สมาชิกพรรค" ไม่สำเร็จ

"ส.ว." อกหัก ดันปลดล็อค  "ส.ว.-อดีตส.ว." มีสิทธิเป็น "สมาชิกพรรค" ไม่สำเร็จ

รัฐสภาเดินหน้าพิจารณาร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองแล้ว อภิปรายหนักปมแก้คุณสมบัติสมาชิกพรรค "ส.ว." เสนอปลดล็อค "ส.ว.-อดีตส.ว." เป็นสมาชิกพรรคไม่สำเร็จ

         ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายพระเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ.... วาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีนายสาธิต ปิตะเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นประธาน ได้พิจารณาแล้วเสร็จ เมื่อเวลา 12.34 น.

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประชุมดังกล่าวได้ใช้เวลาพิจารณาในส่วนของมาตรา 4/1 แก้ไขมาตรา 24 ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะร่วมเป็นสมาชิกของพรรคการเมือง ซึ่งกมธ. พิจารณาเพิ่มบทบัญญัติขึ้นใหม่และมีกมธ.เสียงข้างน้อย รวมถึงสมาชิกรัฐสภาติดใจขอแปรญัตติ โดยเฉพาะประเด็นที่ขอสิทธิให้บุคคลที่ต้องโทษจำคุก , ผู้ที่เคยจำคุกและพ้นโทษมาแล้ว 5 ปี รวมถึง ส.ว. หรือบุคคลที่พ้นตำแหน่งส.ว. ไม่ครบ2 ปีสามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองสามารถมีสมาชิกพรรคการเมืองเพิ่มขึ้นได้

 

         ทั้งนี้ นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. อภิปรายว่า ตามกฎหมายคนไทยมีสิทธิเสรีภาพจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีประชาธิปไตย และเป็นอิสระไม่ถูกครอบงำ คนที่เคยเป็นส.ว. ทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทย ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อพ้นตำแหน่งแล้ว ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ช่วยให้ความคิดเห็นเสนอแนะนโยบายและตัวบุคคลที่สมัครรับเลือกตั้ง

 

\"ส.ว.\" อกหัก ดันปลดล็อค  \"ส.ว.-อดีตส.ว.\" มีสิทธิเป็น \"สมาชิกพรรค\" ไม่สำเร็จ

         “เห็นด้วยจำกัดสิทธิแต่ต้องมีเหตุผลและต้องพิจารณาความจำเป็น เพื่อจำกัดคนไม่ดี ไม่ควรให้สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากลอกมาทั้งหมดห้ามคนที่ไม่ควรเป็นส.ส. ห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเยอะเกินไป ทั้งนี้ผมไม่เห้นด้วยที่จะห้าม อดีตส.ว. เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ที่บอกว่าจะไปเอื้อประโยชน์นั้น หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนนั้น ถูกห้ามไว้แล้วในกฎหมายอื่น ถูกห้ามเป็นตลอดชีพ ทั้งรัฐมนตรี ผู้บริหาร องค์กรอิสระ ตุลาการ ดังนั้นการห้ามไม่ให้อดีตส.ว.เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเยอะเกินไป” นายดิเรกฤทธิ์ อภิปราย

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ที่ประชุมอภิปรายแล้วเสร็จได้ลงมติ ปรากฎว่าเสียงข้างมาก 262 เสียง เห็นชอบกับเนื้อหาที่กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่ ต่อ 51 เสียง ทั้งนี้มีผู้งดออกเสียงจำนวนมาก ถึง 126 เสียง และไม่ลงคะแนน 1 เสียง 

 

         สำหรับจำนวนผู้งดออกเสียง ที่มีมากถึง126 เสียงนั้น คาดว่าจะเป็นในส่วนของส.ว. ที่สนับสนุนให้ปลดล็อคคุณสมบัติสมาชิกพรรคการเมือง ให้ส.ว. และอดีตส.ว. สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้

         สำหรับเนื้อหาที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาเสียงข้างมาก พบว่าได้ลดหย่อนคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่สำคัญคือ ข้อห้ามบุคคลที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก กรณีทำผิดต่อตำแหน่งราชการ , ตำแหน่งหน้าาที่ในการยุติธรรม, ทำผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงานในอค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ให้สิทธิบุคคลที่ต้องคำพิพากษากรณีดังกล่าวที่รอการลงโทษสมัครเป็นสมาชิกพรรคได้

 

         ขณะที่ข้อห้ามซึ่งกำหนดไว้ในพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ฉบับปัจจุบัน ซึ่งโยงกับกำหนดรายละเอียดโดยนำความของรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (1) (2) (4) (5) (6) (7) (8) (9) (11) (14) (16) (17) และ (18)  ยังคงความเข้มข้นไว้เช่นเดิม.