“พิธา” ฟังปัญหาชาวบ้านปัตตานี รับปากนำปม “อุตสาหกรรมฯหนองจิก” เข้า กมธ.

“พิธา” ฟังปัญหาชาวบ้านปัตตานี รับปากนำปม “อุตสาหกรรมฯหนองจิก” เข้า กมธ.

“พิธา” เยือนปัตตานี รับฟังปัญหาประชาชน ได้รับผลกระทบ “เมืองอุตสาหกรรมฯหนองจิก” รับปากนำเรื่องเข้าที่ประชุม กมธ.เพื่อช่วยเหลือ ชี้โครงการ ศอ.บต.มีปัญหามาก ขาดการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2565 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายอารีฟิน โซะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี และนายอันวาร์ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ยะลา ร่วมรับฟังปัญหาประชาชนชาว ต.บางเขา และ ต.ท่ากำซา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ผู้จะได้รับผลกระทบจากโครงการเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" โดยจะมีการเตรียมใช้พื้นที่กว่า 3,000 ไร่ สร้างเมืองอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตร ประชาชนในพื้นที่ห่วงเรื่องผลกระทบที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมลพิษ การแย่งชิงทรัพยากรโดยเฉพาะน้ำ วิถีชีวิตที่อาจสูญเสียไป ตลอดจนการกว้านซื้อที่ดินที่จะทำให้อาจต้องไร้ที่อยู่ โดยนายพิธา รับปากว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้ากรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มารับฟังปัญหาและช่วยเหลือต่อไป

“พิธา” ฟังปัญหาชาวบ้านปัตตานี รับปากนำปม “อุตสาหกรรมฯหนองจิก” เข้า กมธ.

นายพิธา กล่าวว่า โครงการใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในช่วงที่ผ่านมา มีปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่คิดโดยส่วนกลาง แต่ไม่เคยคำนึงถึงผลประโยชน์และผลกระทบคนในพื้นที่ ซึ่งโครงการแบบนี้ ควรต้องยึดหลักสำคัญสำหรับพี่น้องใน 3 เรื่อง คือ 1.สุขภาพ 2.สิ่งแวดล้อม และ 3.เศรษฐกิจ เราไม่ได้ปฏิเสธการพัฒนา แต่เราเห็นว่าการพัฒนาที่ดีประชาชนต้องได้รับผลประโยชน์ด้วย ไม่ใช่ตกอยู่แต่กับนายทุนเพียงอย่างเดียว สำหรับกรณีปัญหาของพี่น้องชาวหนองจิก มั่นใจว่าสามารถช่วยเหลือให้ผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการอย่างถูกต้องได้ เพราะเราเคยมีประสบการณ์ที่เป็นเรื่องใหญ่กว่านี้มาแล้ว อย่างกรณีนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ที่พรรคก้าวไกลได้ตั้งคำถามต่อเรื่องนี้ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนหนึ่งจนทำให้โครงการเป็นที่จับตาของสังคม ต้องมีการชะลอไว้และกลับไปทำให้ถูกต้อง

“พิธา” ฟังปัญหาชาวบ้านปัตตานี รับปากนำปม “อุตสาหกรรมฯหนองจิก” เข้า กมธ.

"นี่จะเป็นอีกครั้งที่เราในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ในฐานะผู้แทนของประชาชน จะได้ทำหน้าที่ปกป้องพี่น้องประชาชนที่เลือกเราเข้าสภา ผมในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลรับปากว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการเชิญทาง ศอ.บต., สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด มาสอบถามว่า ที่กว่า 3,000 ไร่ นั้น จะเอาไปทำอะไรกันแน่? เป็นอุตสาหกรรมเกษตรแบบไหน? ตรงไหนเป็นอะไรอย่างไรบ้าง? ที่ผ่านมามีการทำประชาพิจารณ์หรือไม่? ผลกระทบที่จะชาชนจะเผชิญมีอะไรบ้าง? ที่บอกว่าจะเกิดการจ้างงานคนในพื้นที่จะเป็นอย่างไร? นี่คือสิ่งที่ทางผู้แทนของเราจะได้สอบถาม หลังจากที่ผมได้นำเอาข้อมูลที่มารับฟังวันนี้กลับไปบอกกล่าว และอาจจะขอเชิญตัวแทนพี่น้องที่ได้รับผลกระทบไปร่วมชี้แจ้งพูดคุยกันที่สภาด้วย" นายพิธา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธาเดินทางมาเยือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของพี่น้องชาวมุสลิม ร่วมติดตามกระบวนการสันติภาพ พร้อมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกลในพื้นที่ โดยที่ผ่านมาได้ไปเยือนมัสยิดกรือเซะ ตลาดรูสะมิแล จ.ปัตตานี, ตลาดเก่า จ.สงขลา และก่อนกลับเดินไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนดังกล่าว