สรรหา “แม่บ้าน กสทช.” จับตา “พ.อ.นที” ยอมลดเกรด

สรรหา “แม่บ้าน กสทช.” จับตา “พ.อ.นที” ยอมลดเกรด

ข่าวว่า “บิ๊กน้ำ” พ.อ.นที ศุกลรัตน์ อดีตรองประธาน กสทช. แต่งเนื้อแต่งตัวเดินสาย ต่อคอนเนคชั่น “ตท.27” กรุยทางผ่าน “เสธ.ตึกไทยฯ” โดยเข้าไปทำงานเป็นเลขาธิการ กสทช.มาระยะหนึ่งแล้ว

เข้าประจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ชุดใหม่ ที่นำโดย “หมอไฮ้” ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. พร้อมด้วย พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ต่อพงศ์ เสลานนท์ และ รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง

เป็น กสทช.ป้ายแดง ล็อตแรก 5 คน เหลืออีก 2 เก้าอี้ อยู่ระหว่างการสรรหาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ กสทช.ชุดเก่าอยู่โยงมากว่า 10 ปี

ภารกิจของ กสทช.ใหม่ ที่มีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี ก็มีภารกิจเร่งด่วนที่รออยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะประเด็นร้อนฉ่า การควบรวมกิจการระหว่าง 2 โอเปอร์เรเตอร์ยักษ์ใหญ่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ที่ “กสทช.ชุดเก่า” ยัง “ปิดจ็อบ” ไม่สำเร็จ คาดว่าจะเริ่มถกเรื่องนี้กันตั้งแต่การประชุมนัดแรก วันที่ 27 เม.ย.นี้

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่รอการพิจารณา เช่น แผนการประมูลคลื่นความถี่ 3500 MHz ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าสำหรับเทคโนโลยี 6G และการประมูลคลื่นดาวเทียม ที่เกี่ยวพันไปถึงการรักษาสิทธิ์วงโคจรได้ตามเงื่อนไขสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เป็นต้น

นอกเหนือจากภารกิจที่กองพะเนินแล้ว กสทช.ชุดใหม่ ยังต้องพิจารณาสรรหาแต่งตั้ง “แม่บ้าน” หรือเลขาธิการ กสทช.คนใหม่ด้วย หลังจากที่ไม่มี “ตัวจริง” มาตั้งแต่ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ อำลาตำแหน่งไปตั้งแต่กลางปี 2563 และเป็น ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช.ที่รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการ กสทช.มาถึงตอนนี้

โดยข่าวว่า “บิ๊กน้ำ” พ.อ.นที ศุกลรัตน์ อดีตรองประธาน กสทช. แต่งเนื้อแต่งตัวเดินสาย ต่อคอนเนคชั่น “ตท.27” กรุยทางผ่าน “เสธ.ตึกไทยฯ” โดยเข้าไปทำงานเป็นเลขาธิการ กสทช.มาระยะหนึ่งแล้ว

จนคนในซอยสายลม ที่ทำการ กสทช. หรือกระทั่ง “อรหันต์ชุดใหม่” ต่างงงเป็นไก่ตาแตกว่า ระดับ “รองฯนที” ที่เคยใหญ่โตเป็นถึง “เบอร์ 2” ขององค์กร จะยอมลดเกรด อยากจะลงมาทำงานเป็น “แม่บ้านสำนักงาน” ทั้งที่สามารถพกโปรไฟล์สวยหรูไปหางานทำที่อื่นได้สบายๆ

อย่างไรก็ดี หาก “นที” สนใจที่จะสมัครเป็นเลขาธิการ กสทช.จริง ก็ต้องยอมรับว่า ในแง่ “ประสบการณ์” ถือว่าเป็นต่อคู่แข่งรายอื่นๆ
 

แต่ในแง่ “ความเหมาะสม” ก็มีคำถามตามมาไม่น้อย  ไม่ว่าจะเรื่องผลงานของ “บิ๊กน้ำ” ที่ฝากไว้กับ กสทช.ก็ดูเหมือนจะได้ “โบว์ดำ” มากกว่า “โบว์แดง” ทั้งการมีส่วนร่วมในการร่างกฎเกณฑ์ประมูลคลื่น 3G ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก 

หรือการประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ที่ตัวเองดูแลในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ก็สร้างปัญหาให้กับอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยมาโดยตลอด โดยช่วงรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต้องใช้ “อำนาจพิเศษ” แก้ผ้าเอาหน้ารอดให้หลายต่อหลายครั้ง

อีกทั้งเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก็ได้กำหนดให้ กสทช.มีวาระการดำรงตำแหน่งเพียง “วาระเดียว” ซึ่งชัดเจนว่า ต้องการป้องกันการสืบทอดอำนาจเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

คำถามจึงอยู่ที่ “นที” ซึ่งอยู่โยงใน “อาณาจักรซอยสายลม” มานานกว่า 12 ปี ตั้งแต่อนุกรรมการกิจการกระจายเสียง และโทรทัศน์ เมื่อปี 2551 เป็นกรรมการ กทช.ในปี 2553 และเป็น กสทช.ในปี 2554 เพิ่งพ้นตำแหน่งในปี 2565 ครั้งนี้ ยังต้องการอยู่ทำงานที่เดิมต่อ

ไม่รู้ว่ารักองค์กร กสทช.มาก จนไม่อยากไปไหน หรือนั่งทับอะไรไว้ จนลุกออกไปไม่ได้