ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2568 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 เวลา  17.20 นาฬิกา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2568 ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จในการนี้ ด้วย 
     
ในการนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ
     
จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน  โดยมี สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานสงฆ์

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผ้าไตรจากเจ้าพนักงานศุภรัต ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7, พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7, และพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
     
โอกาสนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ  (วาสน์ วาสโน)  พระราชอุปัธยาจารย์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานที่โต๊ะหมู่  ทรงทอดผ้าไตร 10 ไตรบนพระภูษาโยงที่อาส์นสงฆ์  พระสงฆ์ 10 รูปสดับปกรณ์ 

เมื่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงครองผ้าพระกฐินเสร็จ และทรงพระดำเนินกลับมาประทับที่เดิม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระดำเนินไป ทรงถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก  จากนั้น ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

    โอกาสนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายเหรียญที่ระลึกเนื่องในการสถาปนาพระอิสริยยศเฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ถวายเหรียญที่ระลึก "คณะสงฆ์ถวายเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567" เนื้อทองคำ แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
 

สำหรับ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 7  ทั้งนี้ รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ขึ้นเมื่อปี 2412 เป็นวัดประจำรัชกาล และพระราชทานชื่อวัด ซึ่งหมายถึง "วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ"  คำว่า "ราชบพิธ" หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้าง, คำว่า "บพิธ" มาจากภาษาบาลีคือ ปวิธะ ที่แปลว่าสร้าง   ส่วนคำว่า "สถิตมหาสีมาราม" หมายถึง พระอารามซึ่งมีสีมากว้างใหญ่ เป็นมหาสีมาล้อมรอบอาณาเขตของวัด นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล 

     

จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน พุทธศักราช 2568 ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
   

สำหรับ ประเพณีการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน  โดยมีทั้งพระกฐินหลวงและกฐินราษฏร์  เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ปีนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2568 การทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินของพระมหากษัตริย์ จัดเป็นพระราชพิธีที่สำคัญประจำปี เป็นพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ พระผู้ทรงเป็นพุทธมามกะ และองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน หรือพระกฐินหลวง ด้วยพระองค์เอง หรือทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินและเสด็จไปแทนพระองค์  รวมทั้งพระกฐินพระราชทาน แก่ พระราชวงศ์ องคมนตรี หน่วยงานต่าง ๆ คณะบุคคล และบุคคล เชิญไปทอดถวาย ยังพระอารามหลวงสำคัญ ๆ

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ

      ในการนี้ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกรวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบมูลนิธิ "ทุนพระพุทธยอดฟ้า ในพระบรมราชุปถัมภ์" เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก 
     
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เดิมชื่อวัดโพธาราม หรือวัดโพธิ์  สร้างขึ้นระหว่างปี 2231 ถึง 2246  รัชสมัยพระเพทราชา กรุงศรีอยุธยา  ต่อมาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง มีพระราชาคณะปกครองตั้งแต่นั้นมา  ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระราชกระแสให้บูรณะใหม่ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดงานฉลองและพระราชทานชื่อใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาศ" เป็นวัดประจำรัชกาล  ต่อมาปี 2374 ระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้งเป็นเวลา 16 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์  ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงปฏิสังขรณ์พระรัศมีพระพุทธไสยาสน์ และทรงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม" ทรงสถาปนาพระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 4 ขึ้นในวัดอีกองค์หนึ่ง  ภายในวัด มีสถาปัตยกรรมที่สำคัญ อาทิ พระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ ศาลาการเปรียญ ศาลาราย พระพุทธรูปและพระมณฑป 

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน วัดราชบพิธฯ และวัดพระเชตุพนฯ
     
โอกาสนี้ เจ้าอาวาสวัดฯ ถวายพระพุทธปฏิมาประทับบนหลังช้าง หรือ พระชัยหลังช้าง  ซึ่งวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ร่วมกับเจ้าคณะใหญ่หนเหนือจัดสร้างขึ้น  โดยเป็นศิลปะล้านนาโบราณ ขนาดฐานกว้าง 30 นิ้ว ยาว 50 นิ้ว ความสูง 72 นิ้ว เนื้อโลหะปิดทองคำแท้ทั้งองค์, และเหรียญพระกริ่ง "พระพุทธยอดฟ้า" ทองคำเลี่ยมทองฝังเพชร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
 

ถวายเหรียญพระกริ่ง "พระพุทธยอดฟ้า" ทองคำเลี่ยมทองฝังเพชร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา  และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร .