ทายาทรุ่นที่ 3 APO ธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จ.กระบี่

ธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทยซึ่งมีผลผลิตน้ำมันปาล์มสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยปี 2566 มีเนื้อที่ให้ผลผลิตทั้งหมดจำนวน 6.25 ล้านไร่ ผลปาล์มสดที่ผลิตได้ทั้งหมดจำนวน 19.89 ล้านตัน และพื้นที่ผลิตปาล์มน้ำมันอยู่ในภาคใต้ถึง 85.91% โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และชุมพร

น้ำมันปาล์มดิบเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากทั่วโลก อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้ยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการแข่งขันจากอุตสาหกรรม ดังนั้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งด้านราคาและคุณภาพ จึงเป็นหัวใจของธุรกิจนี้

นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ APO ทายาทรุ่นที่ 3 ของธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ก่อตั้ง โดยครอบครัวอุดมผลกุล ในปี 2526 ซึ่งมีนายเด่นพงษ์ และนายนิพนธ์ อุดมผลกุล ผู้เป็นอากง และคุณพ่อ ร่วมดำเนินธุรกิจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยธุรกิจได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 40 ปี 

สิทธิภาสมีโอกาสเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์ นำมาต่อยอดธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งการจบปริญญาตรี สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  ได้ฝึกงานด้านการพัฒนาเว็บไซต์ และเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาวิชา Informatics จาก Northeastern University ประเทศสหรัฐอเมริกา นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารธุรกิจซึ่งเป็นประโยชน์ในการสืบทอดการบริหารธุรกิจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบของคุณพ่อ อย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีแล้วยังศึกษาความรู้เพิ่มเติมอีกในด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินโดยเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาโทเพิ่มเติมหลักสูตร Financial Economics ที่ Boston University ซึ่งสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจด้านการเงินการลงทุน เปิดมุมมองด้านเศรษฐศาสตร์ในภาคธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น

ด้านประสบการณ์ทำงาน สิทธิภาส ได้เข้าร่วมงานกับ บริษัท ABC Tech Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Telenor Group ประเทศนอร์เวย์ รับผิดชอบงานด้านการพัฒนาโปรแกรม ทำให้มีโอกาสแสดงความริเริ่มสร้างสรรค์ผลงาน เกิดทักษะและความรู้ในแนวทางการทำงานเป็นนักพัฒนาได้เป็นอย่างดี

เมื่อสะสมความรู้และมีประสบการณ์การทำงานมาระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่เหมาะสมในการรับช่วงต่อการบริหารธุรกิจของครอบครัว ควบคู่กับเข้าเรียนหลักสูตร รัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ NIDA ที่ศูนย์การศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ทักษะในการวิเคราะห์แผนนโยบายการจัดการภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการบริหารธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น  

ภายใต้การบริหารงานของสิทธิภาส เขาได้นำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต รวมถึงเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ อีกทั้ง กำหนดนโยบายบริษัทดำเนินการสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ ในโครงการตัดสุก มีสุข ปาล์มดีมีคุณภาพ หรือ Asian Plus+ ได้ทั้งการเพิ่มผลผลิตและสร้างรายได้ที่มากขึ้นให้แก่เกษตรกร ส่งผลให้มีอัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้นอยู่ในอันดับต้นของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จากการจัดอันดับของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรม และยังส่งผลให้น้ำมันปาล์มดิบที่สกัดได้มีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐาน

สิทธิภาส มีความมุ่งมั่นที่จะนำพาธุรกิจให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคต จากการดำเนินงานของทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งเปลี่ยนผ่านจากบริษัทครอบครัว (Family Business) สู่บริษัทมหาชนที่มีการบริหารแบบมืออาชีพและสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน (Sustainable Growth)  โดยมีเป้าหมายจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป

ปัจจุบัน บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ รวมถึงผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจจากผลิตภัณฑ์การเกษตรแบบบูรณาการและยั่งยืน  ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ภายใต้การจัดหาวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนทุกขั้นตอนในการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ตลอดจนคู่ค้า ลูกค้า คู่แข่ง รวมไปถึงการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะชุมชนในท้องถิ่น

ทั้งนี้ น้ำมันปาล์มดิบถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่องหลายประเภท บริษัทจึงกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ ลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตขั้นปลายน้ำ หรือโรงกลั่นน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ที่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ น้ำมันไบโอดีเซล น้ำมันปาล์มโอเลอีน น้ำมันปาล์มสเตียริน การผลิตบิสกิต ครีมเทียม ไอศกรีม อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง การผลิตแชมพู และอุตสาหกรรมโอลีโอเคมี ซึ่งได้แก่การผลิตกรดไขมันและเมทธิลเอสเธอร์ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักนี้ เป็นผู้ผลิตและกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค

 กลุ่มเป้าหมายรองจะเป็นลูกค้ากลุ่มจัดหาและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (Trader) และกลุ่มโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โดยบริษัทผลิตน้ำมันปาล์มดิบที่มีคุณภาพดี เป็นจุดเด่นที่ทำให้มีกลุ่มลูกค้าผู้จัดหาและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (Trader) และกลุ่มโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ ซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากบริษัทไปจำหน่ายต่อทั้งภายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ