เตือน 16 จังหวัดใต้ เตรียมรับมือ 'น้ำท่วม-พายุ' กลางเดือน ต.ค. นี้

เตือน 16 จังหวัดใต้ เตรียมรับมือ 'น้ำท่วม-พายุ' กลางเดือน ต.ค. นี้

บกปภ.ช. สั่งด่วน 16 จังหวัดภาคใต้ (รวมเพชรบุรี-ประจวบฯ) เฝ้าระวัง "ร่องมรสุม-พายุ" เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันและคลื่นลมแรง เน้นแจ้งเตือนและเตรียมอพยพกลุ่มเปราะบาง

วันนี้ (16 ต.ค. 68) กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการฯ ได้สั่งการให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (กอปภ.จ.) ใน 14 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยและคลื่นลมแรงอย่างครอบคลุม หลังกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าภาคใต้จะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป รวมถึงความเสี่ยงจากพายุหมุนเขตร้อนที่อาจเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ บกปภ.ช. รายงานว่า ได้มีการกำชับให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งสภาพอากาศ ปริมาณฝน สถานการณ์น้ำท่า และน้ำในอ่างเก็บน้ำ พร้อมประเมินความเสี่ยงเกิดอุทกภัย คลื่นลมแรง และดินสไลด์ เพื่อวางแผนเผชิญเหตุที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่

มาตรการที่สำคัญที่ถูกเน้นย้ำ ได้แก่

  • การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า : ให้ใช้งานทุกกลไกที่มี เช่น หอกระจายข่าวหมู่บ้าน, วิทยุชุมชน, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อปพร. และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ทราบสถานการณ์และเตรียมรับมือได้อย่างถูกต้อง
  • การป้องกันและแก้ไขปัญหาเชิงรุก : เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ, ขุดลอกคูคลอง, กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ, จัดทำคันกั้นน้ำ และติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปประจำยังพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า

  • การดูแลความปลอดภัยทางทะเล : ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินเรือและการปิดกั้นพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ พร้อมกำชับผู้ประกอบการริมชายหาดให้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้ทำกิจกรรมทางน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด
  • การเผชิญเหตุและช่วยเหลือ : จัดทีมปฏิบัติการสนธิกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งทหาร พลเรือน มูลนิธิ และอาสาสมัคร เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ เน้นการอพยพกลุ่มเปราะบาง, การดูแลด้านการดำรงชีพ, การจัดหน่วยบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข และการสูบระบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
  • การช่วยเหลือและเยียวยา : ทันทีที่สถานการณ์คลี่คลาย ให้เร่งสำรวจความเสียหายให้ครบถ้วนทุกด้าน และดำเนินการช่วยเหลือ เยียวยา รวมถึงฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

บกปภ.ช. ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์และประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ล่วงหน้า หากมีคำสั่งให้อพยพออกจากพื้นที่ ขอให้อพยพทันที หากได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account “ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) และทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง