คอกม้าโคราช ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ ขออนุญาตจัดแข่งม้ากรณีพิเศษ หลังถูกปิด 3 ปี

วันนี้ (4 ก.ย. 66) นายสุนทร แพงไพรี นายกสมาคมเจ้าของคอกม้าแข่งจังหวัดนครราชสีมาพร้อมคณะกรรมการบริหาร เดินทางมายื่นหนังสือกับนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับม้าแข่งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้รับผลกระทบจากคำสั่งปิดสนามม้าเป็นเวลากว่า 3 ปี

นายสุนทร กล่าวว่า จากสถาการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 และโรคกาฬโรคม้าแอฟริกา ซึ่งมีม้าป่วยตายกว่า 600 ตัว สนามม้าโคราช ตั้งอยู่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกคำสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นเวลากว่า 3 ปี ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับม้าแข่งหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจ๊อกกี้ หรือคนเลี้ยงม้า เทรนเนอร์หรือผู้ฝึกซ้อมม้าแข่งและผู้เลี้ยงม้าต้องตกงานขาดรายได้เลี้ยงครอบครัว

แม้สนามม้าราชกรีฑาสโมสร กรุงเทพมหานคร จัดม้าแข่งเดือนละ 2 ครั้ง ก็ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ภาพรวมอุตสาหกรรมม้าแข่งในประเทศได้รับผลกระทบเป็นห่วงโซ่ มูลค่าความเสียหายหลาย 100 ล้านบาท จึงขอความอนุเคราะห์ผู้ว่าฯ นครราชสีมา อนุญาตให้จัดแข่งขันม้าการกุศลเป็นกรณีพิเศษ 

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ผู้ประกอบอาชีพม้าแข่งโคราช ต้องการอนุญาตจัดแข่งขันม้ากระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น สิ่งที่เป็นห่วงคือการพนัน จึงมีจำเป็นต้องมีกฎ ระเบียบกติกามาควบคุมให้รัดกุม ตนได้รับเรื่องนำมาพิจารณาตามอำนาจ หน้าที่ ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลและสนามแข่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 ต้องประสานขออนุญาตตามกระบวนการต่อไป

นายนาย แสนสุนนท์ อายุ 35 ปี ผู้ดูแลม้า กล่าวว่า มีรายได้จากม้าแข่งเฉลี่ยนัดละ 4-5 พัน บาท หากม้าชนะก็ได้โบนัสเพิ่มกว่า 1 หมื่นบาท ปัจจุบันยังเลี้ยงม้า ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่าอาหาร ยาบำรุงม้าและอื่น ๆ เฉลี่ยเดือนละ 1.5 หมื่นบาท ด้วยความหวังแสงสว่างปลายอุโมงค์ สนามม้าจะกลับมาเปิดอีกครั้ง

ด้าน นายมนตรี พวงทอง อายุ 52 ปี เจ้าของร้านครัวกีต้าร์ กล่าวว่า ผลกระทบจากสนามม้าปิดยอดขายลดกว่า 30 % วิงวอนให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจเปิดสนามม้าโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและผู้ประกอบอาชีพเกี่ยวกับม้าได้ลืมตาอ้าปากมีรายได้เลี้ยงชีพ