รถกระบะปืนโหด ยิงมั่วรัวหมด เจ็บ 2 ดับ 1 รถเสียหายอีก 2 ล่าสุดจับได้แล้ว

รถกระบะปืนโหด ยิงมั่วรัวหมด เจ็บ 2 ดับ 1 รถเสียหายอีก 2 ล่าสุดจับได้แล้ว

ระทึกกลางดึก รถกระบะปืนโหด ยิงมั่วรัวหมด เจ็บ 2 เสียชีวิต 1 รถเสียหายอีก 2 ล่าสุดจับได้แล้ว

  เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลา 20.00 น. วันที่ 12 มี.ค. 66 พ.ต.ท.กรกฏ สบายยิ่ง สารวัตรสอบสวน สภ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บ ที่ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นเดินทางพร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ พฐ.ภ.จว.สุพรรณบุรี แพทย์เวร รพ.เดิมบางนางบวช และ มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบรถพ่วง ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียนชัยนาท เป็นรถเปล่า จอดอยู่ข้างทาง ที่กระจกรถข้างคนขับมีรอยกระสุน 1 รู ที่เบาะนั่งคนขับ พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับรถ คือนายวีระพันธ์ เอี่ยมสะอาด อายุ 34 ปี ถูกยิงเข้าที่ริมฝีปาก และกระสุนทะลุไปถูกขมับขวา น.ส.มยุรี เอี่ยมสะอาด อายุ 32 ปี ภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้าง เสียชีวิตคาที่

ส่วนบริเวณปากทางแยกคลอง 5 ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร พบปลอกกระสุน 9 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งยังพบผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ขณะนั่งซาเล้งมากับพ่อ และพบรถเก๋งซูซูกิ สีดำ ทะเบียน 8 กถ 6945 กทม. ถูกยิงกระสุนเจาะที่กระโปรงหน้ารถ 1 นัด โชคดีกระสุนไม่ทะลุไปโดนคนในรถ สำหรับคนร้ายใช้รถกระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขับหลบหนีไป ลักษณะการก่อเหตุเหมือนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ยิงมั่วไม่สนใจใคร เห็นใครผ่านก็ยิงทันที ทั้งนี้ตำรวจได้เร่งตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและดูจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามจับกุมตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี และจะได้สอบสวนหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป

นายวีระพันธ์ คนขับรถพ่วง สามีผู้ตาย เล่าว่า ขับรถบรรทุกน้ำตาลจากจังหวัดชัยนาทมาส่งโรงงานที่ อ.ด่านช้าง กำลังขับรถกลับชัยนาท โดยมาพร้อมรถพ่วงอีก 3 คัน ขณะจะแวะทานข้าวใกล้ที่เกิดเหตุ จู่ๆ มีดังปัง จากนั้นตนเองก็เกิดอาการช็อกไปชั่วขณะ หลังได้สติจึงประคองรถเข้าจอดข้างทางแล้วหันไปดูภรรยาที่นั่งอยู่เบาะข้าง เห็นภรรยานอนฟุบตะแคงเลือดท่วมก็สติแตก เปิดประตูรถตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ให้ช่วยพาภรรยาส่งโรงพยาบาล แต่พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ตนเองหมดหวัง อุตส่าห์เก็บเงินสร้างบ้าน เตรียมสร้างอนาคต แต่มาตายโดยที่ไม่ได้มีเรื่องกับคนร้ายแบบนี้

ด้าน น.ส.กฤษณา เยี่ยมจรรยา อายุ 33 ปี เจ้าของรถเก๋งซูซูกิ กล่าวว่า ตนเองขับรถพาแฟนและแม่กลับจากบ้านญาติที่ชัยนาท จะกลับบ้านที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา มาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถกระบะจอดอยู่ข้างทาง มีผู้ชายถือปืนยืนอยู่ จึงเบี่ยงรถออก พอมาถึง จู่ๆ ผู้ชายที่ยืนอยู่ที่รถกระบะได้ยิงใส่รถของตนเองทันทีได้ยินเสียงดังปัง 1 นัด พยายามรีบเหยียบคันเร่งหนีแต่เร่งไม่ขึ้น จึงรีบประคองรถจอดข้างทางแล้วรีบโทรแจ้งตำรวจ เพราะตอนนั้นมีรถตนเองอยู่คันเดียว กลัวเขาจะตามมายิงซ้ำ แต่หันไปดูก็ไม่พบรถกระบะแล้ว พอลงมาดูก็พบว่ารถถูกยิง แต่โชคดีที่คนในรถซึ่งมา 3 คน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ส่วนนายมิน แสนเมือง อายุ 70 ปี พ่อของเด็กอายุ 14 ปี ที่ถูกยิง กล่าวว่า ตนเองทำอาชีพเก็บของเก่าขาย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถพ่วงข้างย้อนศรมา โดยขี่ไปเรื่อยๆ แล้วเขาก็ขับรถมาด้านหน้าลุง ยิงปืนในรถออกมาหลายนัด จากนั้นก็ลงจากรถมา นึกว่าเขาจะมาพูดเฉยๆ แต่กลับมายิง ลูกชายถูกกระสุนเข้าที่แขนขวา 2 แผล แล้วหันปากกระบอกปืนมาที่ลุง บอกว่าจะยิงให้ตายให้หมด ลุงเลยบอกว่า หนู ลุงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนะ ลุงไปเก็บของเก่ามาจะกลับบ้าน คนร้ายจึงหันปืนมาจ่อ พอพูดแค่นั้นเขาก็ง้างปืนยิงขึ้นฟ้าไปหลายนัด จากนั้นลุงก็ไปจูงรถเครื่องเลาะออกไป ลูกชายนั่งร้องไห้อยู่ที่รถ คนยิงดูจากลักษณะแล้วอายุน่าจะประมาณ 50 ปี ตัวดำๆ หน้ายาวๆ ขับรถกระบะสีดำ เขายิงใส่หน้ารถตัวเองก่อน จนกระจกพรุนหมดเลย แล้วเขาถึงลงจากรถมายิงใส่ลูกลุง แล้วก็จะมายิงลุงต่อ พอลุงพูดเขาก็เปลี่ยนเป็นยิงขึ้นฟ้าประมาณ 3 นัด

ขณะที่ นายเสถียร พูลสวัสสดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากน้ำ กล่าวว่าได้ยินเสียงปืน 4-5 นัด แล้วมีชาวบ้านโทรมาบอกว่ามีรถโดนยิง ขณะเดินทางมายังไม่ถึง ก็มีคนโทรมาบอกอีกว่ามีคนในหมู่บ้านโดนยิง จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป้องกันของเทศบาลรีบไปรับคนเจ็บ จากนั้นตนเองจึงประสานและมาดูที่เกิดเหตุ ก็พบคนเจ็บและเสียชีวิต

  จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถของคนร้ายเป็นกระบะสีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจอดที่ปากปากทางแยกคลอง 5 ระหว่างนั้นมีรถพ่วงข้างของ นายมิน ขับย้อนศรหาเก็บของเก่า คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่เด็กชาย 14 ขวบที่นั่งมากับนายมิน ได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงขึ้นฟ้าอีกหลายนัด ทำให้กระสุนไปถูกรถพ่วงที่ขับผ่านมาโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จนมีคนเจ็บและเสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขับรถวนไปดูรถพ่วง ก่อนจะกลับรถมาจอดที่เดิม เป็นจังหวะเดียวกับที่ น.ส.กฤษณา ขับรถเก๋งซูซูกิผ่านมา คนร้ายจึงยิงใส่รถเก๋งอีก 1 นัด ลักษณะการก่อเหตุเหมือนคนคลุ้มคลั่ง ยิงมั่วไม่สนใจใคร โดยหลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีเข้าเขตชัยนาท และถูกควบคุมตัวได้แล้ว

อัปเดตจับคนร้ายได้แล้ว

จากกรณีที่นายศุภชัย สุ่มเมือง หรืออาร์ท 39 ปี ชาวชัยนาท ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถพ่วง รถซาเล้ง รถเก๋ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ที่ถนนสาย 340 สุพรรณบุรี-ชัยนาท หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำ อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี แล้วหลบหนีมาในจังหวัดชัยนาท ขับซิ่งหนีจากที่เกิดเหตุเข้าในตัวจังหวัดชัยนาท โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 มี.ค.2566 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เวลา 01.00 น. วันที่ 13 มี.ค. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยนาท ควบคุมตัวนายอาร์ท ได้ที่ รพ.ชัยนาทนเรนทร หลังภรรยา แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มารับตัวไปรักษาเนื่องจากมีอาการคลุ้มคลั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยนาทจึงนำตัวมาให้หมอฉีดยากล่อมประสาทเพื่อสงบสติอารมณ์ จากนั้นไม่นาน ได้รับการประสานว่า นายอาร์ทเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนตาย จึงควบคุมไปขังที่ สภ.เมืองชัยนาท

จากนั้นจึงทำการสอบปากคำเบื้องต้น ให้การสารภาพว่าไปตนขับรถกระบะอีซูซุ ตอนเดียว สีเขียวเข้ม ทะเบียน 1 ฒว 733 ไปก่อเหตุยิงคนจริง ใช้ปืนยิงออกจากในตัวรถจนหมดแม็กแต่ไม่รู้ว่ามีคนตาย ผู้ก่อเหตุอยู่ในสภาพซึมๆ พูดจาวกไปวนมา แต่ก็พอจับใจความได้ว่าตนมีอาชีพขายขี่ไก่ ส่งไปยังจังหวัดต่างๆ กำลังจะขับไปส่งของให้เพื่อที่ภาคใต้ ระหว่างทางเจอรถ จยย. ขับปาดไปมา จึงยิงปืนออกไปด้วยความโมโห แล้วภาพก็ตัดจำอะไรไม่ได้ ส่วนชนวนการก่อเหตุน่าจะเกิดจากความเครียดส่วนตัวจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงนำตัวไปยัง รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ นายอาร์ทจอดรถทิ้งไว้ก่อนไปหาภรรยา จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าว กระจกด้านหน้าเป็นรอบกระสุนจำนวน 5 นัด ภายในรถพบปืนของกลาง CZ ขนาด 9 มม. และกระสุนที่ยังไม่ได้ใช้อีกหลายนัด ที่พื้นข้างคนขับพบขวดเบียร์วางอยู่ 1 ขวด ส่วนที่หน้ากระจกพบถุงใบกระท่อมวางอยู่ เจ้าหน้าที่จับตรวจหาสารเสพติด ปัสสาวะเป็นสีม่วง ชุดสืบสวนสอบสวนภ.จว.สุพรรณบุรี จึงนำตัวกลับไปยัง สภ.เดิมบางนางบวชเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพ่อตาผู้ก่อเหตุ เผยว่า ปกติก็เห็นนายอาร์ท ทำงานขับรถส่งขี้ไก่ ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พักหลังเริ่มพังข้าวของ จึงไปเตือน แต่นายอาร์ทหาว่าไปดุด่า ส่วนเรื่องปืนก็ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน แต่พักหลัง สูบกัญชาบ่อย เพราะเครียด น่าจะเป็นเพราะกัญชาจึงทำให้หลอน คิดไปไกลผสมกับความเครียดปัญหาชีวิตที่เป็นทุนเดิมด้วย