'แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก' พร้อมเปิดด่านสะพาน 1 พรุ่งนี้ หลังปิดมานานเกือบ 3 ปี

"แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก" พร้อมเปิดด่านสะพาน 1 พรุ่งนี้ หลังปิดมานานเกือบ 3 ปี โดยประชาชนคนทั้งฝั่งไทยและเมียนมาต่างเฝ้าติดตามความคืบหน้ากันอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่บริเวณด่านพรหมแดนไทย-เมียนมา จุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พบว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่งประเทศ ได้ออกมาทำความสะอาดและจัดเตรียมอุปกรณ์พร้อมกำลังพลกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะฝั่งไทยมีการเปิดประตูเหล็กที่เคยปิดเอาไว้ตั้งแต่ จ.เชียงราย มีประกาศปิดพรมแดนตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเตรียมความพร้อมภายในทั้งขนย้ายอุปกรณ์ ทำความสะอาด ทาสีเส้นจราจรบนถนนและขอบทางของสะพานด้วยขาวดำ ขาวแดง ฯลฯ และในช่วงเย็นเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) และตำรวจ สภ.แม่สาย ต่างเข้าไปดูแลบริเวณหน้าด่านพรมแดนมากเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับทาง จ.ท่าขี้เหล็ก ที่ได้เตรียมการณ์มาแล้วนับเดือนและทาสีเส้นจราจรไปก่อนหน้านี้แล้ว 2-3 วัน รวมทั้งติดธงทิว ดอกไม้ และกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ด้วย

ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่าย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้มีการติดต่อประสานงานกันอย่างไม่เปิดเผยต่อสาธารณะและตกลงว่าจะมีการเปิดด่านพรมแดนพร้อมกันแต่จะเป็นการทดลองเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น.จากเดิมที่มีเวลาเปิดตั้งแต่เวลา 06.30-21.00 น.จากนั้นในอนาคตจึงค่อยประสานงานเพื่อเปิดได้ตามเวลาปกติต่อไป ทั้งนี้มีรายงานว่าอาจจะมีการเปิดด่านพร้อมกันในวันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยจะไม่มีพิธีการใดๆ มากนักและคาดว่าทางผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย หรือตัวแทนจะเดินทางไปจับมือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงกลางสะพานเท่านั้น
 

ซึ่งการตกลงเปิดด่านพรมแดนครั้งนี้ไม่มีการจัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมกันอย่างเปิดเผยหรือเผยแพร่ข่าวสารล่วงหน้า โดยมีรายงานว่าเกิดจากการที่ฝ่ายประเทศเพื่อนบ้านมีความกังวลเรื่องการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงกันข้ามทำให้เคยแจ้งยกเลิกการประชุมกับ จ.เชียงราย มาแล้วครั้งหนึ่งแล้ว ก่อนที่จะมีการจัดประชุมครั้งใหม่ซึ่งประสบความสำเร็จแต่ไม่มีการเปิดเผยใดๆ เช่นเดิม อย่างไรก็ตามพบว่าสื่อท้องถิ่นในรัฐฉานและ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้เผยแพร่ข่าวสารการจะเปิดด่านพรมแดนในวันที่ 19 หรือ 20 ก.พ.นี้กันอย่างคึกคัก ทั้งนี้จุดผ่านแดนถาวรข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ถูกปิดมานานเกือบ 3 ปี ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวและตลาดชายแดนทั้ง 2 ฝั่งประเทศซบเซาโดยมีเพียงการเปิดสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อใช้สำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น ดังนั้นกระแสการเปิดด่านครั้งใหม่นี้จึงทำให้ผู้คนทั้งฝั่งไทยและเมียนมาต่างเฝ้าติดตามความคืบหน้ากันอย่างต่อเนื่อง

นายใจ อายุ 64 ปี อาชีพมอเตอร์ไซด์รับจ้างบริเวณหน้าด่านพรหมแดนแม่สาย กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่าจะมีการเปิดด่านพรหมแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ก็รู้สึกดีใจ เพราะว่าในช่วงที่ด่านปิดมานานเกือบ 3 ปี รายได้แทบไม่มี ต้องนำเงินออมที่สะสมไว้มาใช่จ่ายในชีวิตประจำวันตลอดมา ซึ่งตนเองคาดว่าการเปิดด่านในครั้งนี้จะทำให้มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น และจะทำให้ตนเองมีรายได้ดีขึ้น ไม่ใช้เฉพาะตนที่ดีขึ้น รวมถึงผู้ขับขี่รถสองแถวรับจ้าง และพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดการค้าหน้าด่านพรหมแดนก็จะขายสินค้ากันได้มากขึ้น อีกทั้งประชาชนทั้ง 2 ฝั่งประเทศก็จะได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้สะดวก ดังนั้นตนคิดว่าเศรษฐกิจคงจะดีขึ้น