แจงด่วน 'ส.ต.อ.' ทำปืนลั่น 'พ.ต.ท.' เจ็บ สนั่น สน.ห้วยขวาง ย้ำอุบัติเหตุ!!

แจงด่วน 'ส.ต.อ.' ทำปืนลั่น 'พ.ต.ท.' เจ็บ สนั่น สน.ห้วยขวาง ย้ำอุบัติเหตุ!!

เรื่องของเรื่องทั้งหมด แจงด่วน 'ส.ต.อ.' ทำปืนลั่น 'พ.ต.ท.' บาดเจ็บ สนั่น สน.ห้วยขวาง ย้ำอุบัติเหตุ กำชับไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

รองผู้กำกับฯ สน.ห้วยขวาง ชี้อุบัติเหตุ หลัง “ส.ต.อ. ทำปืนลั่นกระสุนลงพื้นเฉี่ยวนิ้ว "พ.ต.ท." เจ็บเล็กน้อย เจ้าตัวไม่ติดใจเอาความ พร้อมกำชับเน้นความระมัดระวัง หมั่นฝึกฝน เพื่อความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ

ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจทำปืนลั่น จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ หน้าห้องปฏิบัติการป้องกันปราบปราม สน.ห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าวพบว่า ผู้บาดเจ็บเป็นตำรวจ ยศ “พ.ต.ท.” นายหนึ่ง มีตำแหน่งเป็น สารวัตรป้องกันและปราบปราม ผู้ควบคุมเจ้าหน้าที่สายตรวจในชุดดังกล่าว 

ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ ยศ “ส.ต.อ.” โดยระหว่างเกิดเหตุ ได้มีการฝึกซ้อมยุทธวิธีตามปกติ ก่อนออกตรวจในแต่ละวัน โดยขณะที่ทำ การฝึกซ้อม ได้เกิดเหตุทำปืนลั่นลงพื้น โดยปืนกระบอกดังกล่าว เป็นปืนซิกเซาวเออร์ รุ่น P320 ขนาด 9 มม. โดยหลังเกิดเหตุพบว่าเศษปูน ที่ถูกกระสุนปืน ได้กระเด็นไปถูกนิ้วมือของ สวป. รายดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุด พ.ต.ท.กฤติน พชรธนบูรณ์ รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า วานนี้ เวลาประมาณ 15.30 น. ทางตำรวจสายตรวจ ได้มีการประชุมอบรมปล่อยแถว ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นปกติ โดยหลังจากประชุมในห้องปฏิบัติการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการตรวจอาวุธ ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธวิธี การปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา 

 

ขณะตรวจอาวุธ ได้เกิดอุบัติเหตุ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งยศ “ส.ต.อ.” ทำปืนลั่นลงพื้น ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็น นายตำรวจยศ “พ.ต.ท.” ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นสารวัตรป้องกันปราบปรามควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบ น่าจะเป็นเศษปูน ที่กระเด็นถากไปโดนบริเวณนิ้วมือ ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย 

จากนั้นได้นำตัวไปทำแผลที่โรงพยาบาล ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ส.ต.อ. หลังจากเกิดเหตุ ได้เข้าไปขอโทษ สวป. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้มีการติดใจเอาความกันแต่อย่างใด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอุบัติเหตุ ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้ เน้นใช้ความระมัดระวัง ในการ ปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะการฝึกยุทธวิธี เพื่อให้มีความปลอดภัย และไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนขึ้นอีก