CHAYO - ซื้อ

CHAYO - ซื้อ

รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 27 ลบ. เติบโตสูง 87%YoY เติบโตตามรายได้จากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 27 ลบ. เติบโตสูง 87%YoY เติบโตตามรายได้จากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ: รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 27 ลบ. เติบโต 87%YoY และคิดเป็นสัดส่วน 25% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ที่ 108 ลบ. เติบโตไปในทิศทางเดียวกับรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น 50%YoY สู่ 75 ลบ. โดยแบ่งได้เป็น เติบโตจากรายได้เงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพ 54%YoY สู่ 60 ลบ. และเติบโตรายได้จากการให้บริการเร่งรัดหนี้สิน 52%YoY สู่ 15 ลบ. ประกอบกับบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวมลดลงเหลือ 18% จาก 1Q61 ที่ 23%  ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ 37% จาก 1Q61 ที่ 29% โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทได้มีการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกันเข้ามาทั้งสิ้น 199 ลบ. ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกันจำนวน 3,168 ลบ. และชนิดไม่มีหลักประกันจำนวน 35,181 ลบ.
  • คงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ที่ 108 ลบ.เติบโต 26%YoY ตามมูลค่ากองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น: คงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ที่ 108 ลบ.เติบโต 26%YoY โดยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากแผนการซื้อกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มเติมมูลค่าราว 1 หมื่นลบ. คาดจะใช้งบลงทุนราว 1-1.25 พันลบ.และเติบโตจากบริษัทย่อยที่ก่อตั้งใหม่ ได้แก่ บริษัทชโยแคปปิตอล ซึ่งจะดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อและบริษัท โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อในปีนี้ที่ 200-250 ลบ. และบริษัทชโย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ เซอร์วิส ซึ่งจะดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดจะเห็นความชัดเจนได้ใน 4Q62 ทั้งนี้บริษัทได้มีการจัดหาเงินลงทุนด้วยการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง 40 ล้านหุ้นซึ่งคิดเป็น 7% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด มูลค่าทั้งสิ้น 153 ลบ.และยังมีแผนออกหุ้นกู้มูลค่ากว่า 1,250 ล้านบาท
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 00 บาท : ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมโดยอิง Prospect PER ที่ 28 เท่าซึ่งสูงกว่าคู่แข่งที่ระดับ 25 เท่าเนื่องจากมีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นกว่า โดยประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 62 ราว 0.18 บาทได้ราคาเหมาะสม 5.00 บาท เพิ่มจากราคาเหมาะสมเดิมที่ 4.80 บาท เนื่องจากมีจำนวนหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงน้อยกว่าคาด เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันอัพไซต์ราว 15% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยสนับสนุน

      1. ธุรกิจให้สินเชื่อสามารถสร้างรายได้ที่ต่อเนื่องมากกว่าธุรกิจ Call Center

      2. บริษัทสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากกองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพชนิดมีหลักประกันได้มากกว่าที่คาด

ความเสี่ยง

      1. มีการเก็บหนี้ได้น้อยกว่าที่คาด

      2. ไม่สามารถขายหลักประกันได้ตามที่คาดไว้