จีนส่งสัญญาณเลิกเจรจาการค้ากับสหรัฐ

จีนส่งสัญญาณเลิกเจรจาการค้ากับสหรัฐ

ตลาดหุ้นป่วนหนัก ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ เปิดตลาดทรุดกว่า500 จุด

รัฐบาลปักกิ่งกำลังพิจารณายกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ในอัตรา 25% 

ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และคณะประมาณ100 คน มีกำหนดเจรจาการค้ากับคณะผู้แทนการค้าของสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน ในวันพุธ(8พ.ค.)นี้ ซึ่งการเจรจาร่วมกันครั้งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น โดยจีนอาจจะชลอการเจรจาออกไปก่อน หลังจากผู้นำสหรัฐระบุว่าอาจเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 25% ภายในวันศุกร์ (10พ.ค.)นี้

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของจีนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตันถือเป็นข่าวร้ายสำหรับตลาดหุ้นและตลาดเงิน ล่าสุด ดัชนีดาวโจนส์ตลาดฟิวเจอร์ เปิดตลาดปรับตัวร่วงลงกว่า 500 จุด

นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน โดยอ้างว่าจีนทำการค้าไม่เป็นธรรม ทั้งในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายโอนเทคโนโลยี และการจงใจลดค่าเงินหยวน ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเป็นการตอบโต้ ส่งผลให้ทั้งสองประเทศเผชิญกับข้อพิพาททางการค้า จนสร้างความกังวลไปทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติม นับเป็นจุดเริ่มต้นของการพยายามทำข้อตกลงระหว่างสองประเทศ

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หรือประมาณครึ่งหนึ่งที่สหรัฐนำเข้าจากจีนในแต่ละปี โดยในจำนวนนี้ มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% กับสินค้าจีนวงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่เหลืออีก 200,000 ล้านดอลลาร์จัดเก็บในอัตรา 10%