จาก 'เฮเซ' สู่ 'เรวะ' ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

จาก 'เฮเซ' สู่ 'เรวะ' ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะของญี่ปุ่นทรงสละราชสมบัติในวันนี้ (30 เม.ย.) สิ้นสุดรัชสมัยเฮเซ วันรุ่งขึ้น (1 พ.ค.) มกุฎราชกุมารนารุฮิโตทรงสืบทอดบัลลังก์ดอกเบญจมาศต่อจากพระราชบิดา เริ่มต้นรัชสมัยเรวะ

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะของญี่ปุ่นทรงสละราชสมบัติในวันนี้ (30 เม.ย.) สิ้นสุดรัชสมัยเฮเซ วันรุ่งขึ้น (1 พ.ค.) มกุฎราชกุมารนารุฮิโตทรงสืบทอดบัลลังก์ดอกเบญจมาศต่อจากพระราชบิดา เริ่มต้นรัชสมัยเรวะ ที่แตกต่างจากยุคสมัยแห่งพระราชบิดามากมายนัก ตอนเริ่มยุคเฮเซ ปี 2532 ญี่ปุ่นตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ ต่อเนื่องถึงการปฏิวัติเทคโนโลยี ในโอกาสวันสุดท้ายแห่งรัชสมัยเมื่อมองย้อนกลับไปพบว่า ญี่ปุ่นผ่านเหตุการณ์สำคัญชวนจดจำหลายอย่าง

จำนวนประชากรลด

จำนวนประชากรลดเป็นปัญหาเศรษฐกิจสังคมอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังกดดันญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ตอนที่สมเด็จพระจัักรพรรดิอากิฮิโตะทรงครองราชย์ ญี่ปุ่นมีประชากร 123 ล้านคนช่วงปีแรกๆ แห่งรัชสมัย จำนวนประชากรยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดเมื่อ 10 ปีก่อนที่ 128 ล้านคน จากนั้นประชากรอยู่ในขาลง อัตราการเกิดลดสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่เรื่อยๆ

ขณะนี้ ญี่ปุ่นมีประชากรราว 126 ล้านคน และจะลดลงไปอีกไม่ว่ารัฐบาลจะพยายามเพิ่มอัตราการเกิดเท่าใดก็ตาม

จีนผงาด

ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนไม่ได้อบอุ่นตลอดเวลา แต่ในแง่การค้าสองชาติมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากขึ้น เมื่อเริ่มรัชสมัยเฮเซสหรัฐยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น สะท้อนถึงความสัมพันธ์หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2

แต่ระหว่างนั้น  จีนก็แซงหน้าสหรัฐการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับจีนพุ่งขึ้นกว่า 10 เท่า จาก 2.7 ล้านล้านเยนมาอยู่ที่ 35 ล้านล้านเยนเหนือกว่าการค้ากับสหรัฐที่มีมูลค่า 24 ล้านล้านเยนมากนัก

ประเทศน่าเที่ยว

ตอนนี้ญี่ปุ่นอาจเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ช่วงไม่กี่ปีหลังผู้คนทะลักเข้ามายังแดนซากุระเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะก่อนการแข่งขันรักบี้เวิลด์คัพในปีนี้ และโตเกียวโอลิมปิกในปี 2563

เฉพาะปี 2561 ปีเดียวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวญี่ปุ่นถึง 31 ล้านคนซึ่งรัฐบาลโตเกียวก็หวังเพิ่มตัวเลขให้มากขึ้นอีก ตั้งเป้า 40 ล้านคนต่อปีภายในปี 2563

นี่คือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเทียบกับตอนที่สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงครองราชย์นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวญี่ปุ่นเพียง 2.8 ล้านคนเท่านั้น

ผู้หญิงกับการเมือง

เมื่อเริ่มรัชศกเฮเซ สภาญี่ปุ่นมีผู้หญิงไม่ถึง 4% ต่อมาสัดส่วนเพิ่มขึ้น 3 เท่า แต่ยังอยู่ที่ 14% ถือว่าต่ำกว่าประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ

รัฐบาลนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ทั้งๆ ที่เขาประกาศว่าจะดำเนินนโยบาย “วีเมโนมิกส์” หรือสนับสนุนให้ผู้หญิงทำงานนอกบ้านมากขึ้น

สิงห์อมควัน

เมื่อปี 2532 ญี่ปุ่นเป็นประเทศของคนสูบบุหรี่ ผู้ชาย 61% สูบบุหรี่ ขณะที่ผู้หญิงมีตัวเลขต่ำกว่ามาก สูบบุหรี่เพียง 12% แต่อัตราการสูบดิ่งลงมากโดยเฉพาะในผู้ชายตอนนี้ชายนักสูบเหลือเพียง 28% เท่านั้น ส่วนผู้หญิงสูบบุหรี่ลดเหลือ 9%

ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการออกกฎหมายเข้มงวดห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และการรณรงค์ตระหนักรู้ถึงปัญหาสุขภาพ แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลลดทอนความเข้มข้นของกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารและบาร์ลง เป็นผลให้ถูกวิจารณ์หนัก ปัจจุบันในสถานที่เหล่านี้ยังคงมีคนสูบบุหรี่กันมากมาย

สุขาไฮเทค

สุขาไฮเทค ถือเป็นความรื่นรมย์หนึ่งในหลายๆ อย่างในชีวิตชาวญี่ปุ่น ทั้งสเปรย์น้ำอุ่นไปจนถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ลมเป่า แม้กระทั่งอุปกรณ์กลบเสียง ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่าทุกวันนี้ครัวเรือนญี่ปุ่น 80% ใช้โถส้วมไฮเทค เทียบกับเมื่อปี 2535 ที่เพิ่งมีอุปกรณ์ชนิดนี้ใหม่ๆ ตัวเลขอยู่ที่ 14% เท่านั้น