คลังล้มแจกเงินกระตุ้นท่องเที่ยว

คลังล้มแจกเงินกระตุ้นท่องเที่ยว

คลังล้มมาตรการแจกเงิน 1.5 พันบาทกระตุ้นท่องเที่ยว เหตุไม่ตรงวัตถุประสงค์การขอใช้งบกลางปี แต่ให้วงเงินลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 2 หมื่นบาทต่อคน ขณะที่ เดินหน้าเติมเงินผ่านบัตรคนจนวงเงินรวม 1.3 หมื่นล้านบาท ผ่านมาตรการลดค่าครองชีพ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ยกเลิกแผนการนำมาตรการแจกเงินจำนวน 1.5 พันบาทต่อรายจำนวน 10 ล้านราย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในเมืองรอง โดยหลังจากหารือกับสำนักงบประมาณเกี่ยวกับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้พบว่า ไม่สามารถนำงบกลางปีมาใช้ในมาตรการดังกล่าวได้ ซึ่งถือว่าขัดกับวัตถุประสงค์ของการใช้งบกลางปีที่จะต้องมีความจำเป็นและใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการลดหย่อนภาษีการใช้จ่ายท่องเที่ยวทั่วประเทศนั้น ยังดำเนินการอยู่ โดยจะเพิ่มวงเงินลดหย่อนให้เป็น 2 หมื่นบาทต่อคนต่อปี จากแนวทางเดิมที่คิดไว้ว่า จะให้วงเงินลดหย่อนเพียง 1.5 หมื่นบาทต่อคนต่อปีเท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นยอดการใช้จ่ายให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับมาตรการพยุงเศรษฐกิจอื่นๆนั้น โดยหลักๆแล้ว จะดำเนินการผ่านการเพิ่มเงินใส่ในบัตรคนจนที่ได้รับสวัสดิการรัฐเพิ่มเติมวงเงินรวม 1.3 หมื่นล้านบาท อาทิ 1.ใส่เงินเข้าไปในบัตรคนจน เพื่อลดภาระก่อนเปิดแก่ผู้ปกครองที่มีบุตรกำลังศึกษาระดับชั้นตั้งแต่มัธยมลงมาคนละ 500 บาท โดยจะใส่เงินเข้าไปในบัตรของผู้ที่เป็นมารดา หากมีบุตร 3 คน ก็จะได้รับทันที 1.5 พันบาท หากไม่มีมารดา ก็จะใส่ในบัตรของบิดาแทน

“มาตรการนี้ เราต้องการลดภาระผู้ปกครองช่วงก่อนเปิดเทอม ฉะนั้น เราจะจ่ายให้เดือนเดียว คือ เดือนพ.ค.นี้ แต่จะช่วยเฉพาะผู้ที่มีบุตรที่กำลังศึกษาระดับต่ำกว่าชั้นมัธยมเท่านั้น จากข้อมูลเราพบว่า มีผู้มีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวนประมาณ 2.6 ล้านคน”

ขณะเดียวกัน ยังจะเพิ่มเงินในบัตรคนจนจำนวน 14.5 ล้านคน เพื่อให้นำไปซื้อของร้านธงฟ้าเป็น 500 บาท จากเดิมที่ผู้ถือบัตรจะได้รับคนละ 200 บาท และ 300 บาท ตามฐานรายได้ โดยจะเพิ่มเงินให้เป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ พ.ค.-มิ.ย.นี้เท่านั้น

สำหรับผู้ถือบัตรคนจนที่เป็นผู้พิการจะได้รับเงินเพิ่มในบัตรอีก 200 บาท โดยจะจ่ายให้นับตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังจะช่วยเหลือเกษตรกรลดภาระการผลิตผ่านการใส่เงินในบัตรอีก 1 พันบาทต่อคน โดยผู้ที่จะได้รับจะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้วเท่านั้น

“มาตรการต่างๆที่จะดำเนินการใส่เงินผ่านบัตรคนจนนั้น เรามีแหล่งเงินที่จะนำมาจากเงินกองทุนประชารัฐ โดยปัจจุบันยังมีเงินเหลือพอที่จะนำมาจัดสรรได้ เนื่องจาก ยอดการใช้จ่ายผ่านการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ นั้น ต่ำกว่าเป้าหมาย เราจึงดึงเงินส่วนนี้มาใช้ได้”

สำหรับมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์นั้น ขณะนี้ เห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องนำมาใช้ เนื่องจาก ยังไม่เห็นปัญหาของธุรกิจดังกล่าว ทั้งยังเศรษฐกิจในขณะนี้ ไม่จำเป็นต้องได้รับแรงกระตุ้นมาก เพียงแค่พยุงให้สามารถขยายตัวได้ เพื่อรอรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารเศรษฐกิจเท่านั้น