เลขาฯกสทช.ย้ำเรียกเก็บเพิ่ม หากดีแทคมีรายได้ใช้คลื่น1800-850

เลขาฯกสทช.ย้ำเรียกเก็บเพิ่ม หากดีแทคมีรายได้ใช้คลื่น1800-850

ดีแทค ชำระเงินรายได้ 603,806,875 บาท ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการบนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ 850 MHz ระหว่างวันที่ 16 ก.ย.- 15 ธ.ค. 61 เลขาฯกสทช.ย้ำเรียกเก็บเพิ่ม หากดีแทคมีรายได้ใช้คลื่น

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (10เม.ย.2562) บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ได้นำเงินรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และ 850 MHz

ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ธันวาคม 2561 หลังสิ้นสุดสัญญาให้ดำเนินการให้บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2561

จำนวน 603,806,875 บาท ตามที่บริษัทฯ รายงานในรายการการคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มาชำระแก่สำนักงาน กสทช. ซึ่งเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)

กำหนดให้ผู้ให้บริการที่สิ้นสุดการให้บริการตามสัญญาสัมปทานมีหน้าที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อไป เป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายของผู้ใช้บริการที่ยังไม่อาจโอนย้ายไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นได้และเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการให้สามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง

เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า การชำระเงินดังกล่าว เป็นการชำระรายได้ขั้นต่ำจากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานเป็นครั้งแรก หลังจากเปลี่ยนผ่านระบบสัญญาสัมปทานไปสู่ระบบใบอนุญาต โดยสำนักงาน กสทช. จะนำส่งกระทรวงการคลัง เพื่อเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป ทั้งนี้ หากหากตรวจสอบพบว่า บริษัทยังคงมีรายได้ที่ต้องนำส่งตามประกาศฯ ดังกล่าวเพิ่มเติมอีก กสทช. จะพิจารณาเรียกเก็บเพิ่มเติมต่อไป