ปชป.เผยผลหารือ ยึด 'ชาติ ศาสนา กษัตริย์' เหนือการเมือง

ปชป.เผยผลหารือ ยึด 'ชาติ ศาสนา กษัตริย์' เหนือการเมือง

"พีระพันธุ์" เผยวงหารือสมาชิกปชป. ยึด “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” เหนือการเมือง โยนกก.บห.ชุดใหม่ตัดสินใจร่วมไม่ร่วม แนะให้ไปดูความหมายเผด็จการ อย่ายึดติดวาทกรรมทางการเมือง

เมื่อวันที่ 5 เม.ย.62 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการหารือว่า ในวันนี้พวกเราที่เป็นอดีต ส.ส. และว่าที่ ส.ส. ได้นัดหมายกันมาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้ง และทิศทางการทำงานของพรรค โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรับฟังด้วย แต่ท่านแค่มารับฟังเท่านั้นไม่ได้ออกความเห็นอะไร

เมื่อถามถึงทิศทางทางการเมืองของพรรค นายพีระพันธุ์ ระบุว่า อุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ก็คือ เราทำงานการเมืองเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เหนือสิ่งอื่นใด "เราสรุปกันได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไร เราก็ต้องดู เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เท่านั้น อะไรที่ไม่ใช่ทั้งสามอย่างนี้ เราก็ไม่สามารถร่วมทำงานได้" ตนไม่อยากบอกว่า เราจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล เพราะวันนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะพูดได้ เพราะจำนวน ส.ส. ก็ยังไม่นิ่ง เราก็ยังไม่รู้จำนวน ส.ส. เราด้วย แต่วันนี้ที่มาพูดคุยกัน เราก็เน้นว่าเราจะทำงานแบบไหนต่อไปในทางการเมือง อุดมการณ์ของพรรคอย่างไรเราก็เดิน และเราเห็นด้วยว่า เรายืนอยู่กับสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เท่านั้น เพราะฉะนั้น การทำงานการเมืองของ ส.ส. ของพวกเรา ก็จะเดินไปในแนวนี้อย่างเดียวเท่านั้น

"และถ้าให้พูดในแง่ของประเด็นที่ถามว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมรัฐบาล ตอนนี้กรรมการบริหารชุดนี้ไม่มีอำนาจ เพราะ กรรมการบริหารชุดนี้เป็นกรรมการบริหารรักษาการ ที่มีหน้าที่แค่สรุปงบดุล แล้วก็จัดการเลือกตั้งกรรมการบริหารชุดใหม่เท่านั้น แต่ว่าเนื่องจากสถานการณ์บ้างเมืองก็ดี แล้วความอึดอัดใจของส.ส.หลายๆท่าน ก็คิดว่าต้องมาหารือกันในพรรค เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องนี้กันเท่านั้นเอง" นายพีระพันธุ์ กล่าว

เมื่อถามว่า การประชุมของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ จากที่คาดว่าจะมีการประชุมกันหลัง กกต. รับรองการเลือกตั้งแล้ว นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ตนตอบไม่ได้ เพราะว่าตนไม่ได้เป็น

เมื่อถามถึง ความคาดหวังของประชาชนที่มีต่อการผลักดันนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในเขตที่ชนะการเลือกตั้ง นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ในส่วนของแนวนโยบายก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นธรรมดาที่พี่น้องประชาชนก็ต้องการ ให้ผู้แทนของเขา หรือพรรคการเมืองที่เขาเลือกเอานโยบายนั้นไปปฏิบัติ แต่อีกส่วนหนึ่งที่มีความต้องการของประชาชนก็คือ อยากจะเห็นความมั่นคง ความปรองดอง และความยั่งยืนของประเทศชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ต่อไปด้วย เพราะฉะนั้น พวกเราในฐานะ ส.ส. ของประเทศไทย เราก็ต้องนึกถึงประเทศเป็นอันดับแรกเหนือการเมือง

เมื่อถามว่า หากนึกถึงประเทศเป็นอันดับแรกเหนือการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ก็มีอยู่สองฝ่ายทางการเมือง นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ผมหมายความว่า การทำงานของ ส.ส. เราจะไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองมาก่อน ที่บอกว่าประเทศจะมาเป็นอันดับแรก คืออะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ แม้จะทำให้เราไม่ได้ผลประโยชน์ ผมคิดว่าจากที่เราคุยกัน คือเราจะยึดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามอย่างนี้เป็นอันดับแรกเหนือการเมือง

เมื่อถามถึงรายละเอียดที่ร่วมหารือกันในวันนี้ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า มีหลายรายละเอียดในการพูดคุย แต่ผลสรุปของทุกคนก็คือแบบเดียวกัน แต่ก็มีข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นที่ต่างกันไป

เมื่อถามว่า จะมีการหารือกันอีกครั้งหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ก็มีจำนวนหนึ่งที่วันนี้อยากมาแต่ติดภารกิจ คงต้องสอบถามความคิดเห็นท่านเหล่านั้นเพิ่มเติมเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า จากจุดยืนข้างต้น จะเป็นการสวนทางกับสิ่งที่อดีตหัวหน้าพรรคอย่าง "นายอภิสิทธิ์" เคยประกาศไว้หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ท่านไม่ได้บอกว่า ท่านจะไม่ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างที่ตนเรียนไปแล้วว่า อะไรที่ทำให้ชาติบ้านเมืองสงบสุข แล้วผลประโยชน์ตกอยู่ที่ชาติบ้านเมือง สถาบันศาสนา พระมหากษัตริย์ พวกเราที่เป็นว่าที่ ส.ส. รวมถึงอดีต ส.ส. ก็เห็นว่า สอดคล้องต้องกัน

เมื่อถามถึง อุดมการณ์ที่จะไม่ร่วมกับทางเผด็จการ นายพีระพันธุ์ ระบุว่า ก็ต้องไปดูว่าอะไรคือความหมายของคำว่าเผด็จการ เผด็จการคืออะไรเราก็ต้องไปดูตรงนั้น แต่ที่สำคัญตนคิดว่าในวันนี้เราอย่าไปตกอยู่ในวาทกรรมทางการเมืองว่า อะไรคือประชาธิปไตยทางการเมืองหรือเผด็จการ เพราะตรงนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการแบ่งแยกประชาชน แบ่งแยกสังคม