อินโดฯตั้งเป้าส่งออกรถ 4.5 แสนคัน

อินโดฯตั้งเป้าส่งออกรถ 4.5 แสนคัน

อินโดนีเซียตั้งเป้าส่งออกรถเพิ่มเป็น 450,000คันในปีนี้ และผงาดเป็นฮับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคในอนาคต

นายไอร์ลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย แถลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า กระทรวงฯตั้งเป้าเพิ่มยอดการส่งออกรถของประเทศเป็น 450,000คันในปีนี้ เทียบกับที่เคยส่งออก 346,000คันในปีที่แล้ว สร้างรายได้ให้กับประเทศรวม 4,780 ล้านดอลลาร์

ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์อินโดนีเซีย ระบุว่า การส่งออกรถสำเร็จรูปในปีที่แล้ว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 264,553 คัน เพิ่มขึ้น 14.4% จากยอดส่งออกในปี 2560 ขณะที่การส่งออกรถที่ผลิตภายในประเทศเติบโต 6.6%

นายไอร์ลังกา กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของอินโดนีเซียสามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ เนื่องจากมีการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมากขึ้น หลังจากรัฐบาลออกกฎกำหนดให้ผู้ผลิตต้องใช้วัตถุดิบในประเทศ

"เราคาดว่า อุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซียจะกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมนี้ในอาเซียนหรือแม้แต่ในเอเชีย" รัฐมนตรีการค้าอินโดนีเซียกล่าวด้วยความมั่นใจ

อินโดนีเซียผงาดเป็นฐานการผลิตสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ (เอ็มพีวี) รถบรรทุก รถกระบะสำหรับตลาดโลก และนายไอร์ลังกาเสริมว่า รัฐบาลตั้งเป้าที่จะยกระดับประเทศเป็นซัพพลายเออร์สำหรับรถเก๋งและรถเอสยูวีด้วย

ขณะเดียวกัน การผลิตรถขับเคลื่อน 4 ล้อขึ้นไปในอินโดนีเซียแตะที่ 1.34 ล้านคัน มูลค่า 1.376 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว “สำหรับตลาดภายในประเทศ เราแข็งแกร่งกว่าประเทศไทย เราตั้งเป้าที่จะผลิตรถให้ได้ 1.5 ล้านคันภายในปี 2563” นายไอร์ลังการะบุ

นอกจากนั้น กระทรวงการค้าอินโดนีเซียยังผลักดันให้บรรดาผู้ผลิตรถท้องถิ่นพัฒนารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ (แอลซีอีวี) เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามีสัดส่วนอยู่ที่ 20% ของยานพาหนะบนท้องถนนในประเทศภายในปี 2568

นายไอร์ลังกา เสริมว่า กระทรวงฯ สนับสนุนให้มีการเปิดเขตอุตสาหกรรมแห่งใหม่ในจ.ชวาตะวันออกและพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ